เทคโนโลยี ai

เทคโนโลยี ai ต่อการลงทุน เทคโนโลยียุคใหม่ จะมาแทนที่มนุษย์

เทคโนโลยี ai

เทคโนโลยี ai เรื่องนี้อาจจะไม่ไกลตัวอีกต่อไป กับการที่สิ่งไม่มีชีวิตเช่น เครื่องจักร หรือ หุ่นยนต์ สามารถประมวลผลข้อมูล วิเคราะห์ และตัดสินใจแทนมนุษย์ได้ อาจจะเป็นสิ่งที่เราเคยเห็นเฉพาะในภาพยนตร์ โดยที่ไม่คาดคิดว่าเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่อย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ในชีวิตจริงของเราได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเรื่องการลงทุน ในระยะแรกการเติบโต อาจจะไม่ได้ก้าวกระโดด แต่ในระยะยาวแน่นอนว่า ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนแปลง แบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียว

บทบาท AI ต่อการลงทุน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปัญญาประดิษฐ์ และหุ่นยนต์ เข้ามามีส่วนสำคัญในการทำงานอย่างชัดเจน ก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่า มีการนำหุ่นยนต์มาใช้ใน ภาคอุตสาหกรรมเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันเริ่มมี การใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ แล้ว เมื่อพูดถึงการลงทุนถือว่า AI มีบทบาทสำคัญไม่น้อย โดยเทรนด์การนำ หุ่นยนต์มาวิเคราะห์ และ ให้คำแนะนำในการลงทุน บนแพลตฟอร์มดิจิทัล เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เราเรียกกันว่า Robo Advisor ที่จะช่วยให้การลงทุนง่ายขึ้น และสามารถลดค่าใช้จ่ายในการบริการจัดการได้ดีขึ้น ufabet.win

ข้อดีของการใช้ Robo Advisor เพื่อการลงทุน

  • เมื่อเปรียบเทียบระหว่าง แพลตฟอร์มที่ใช้หุ่นยนต์วิเคราะห์ จะมีค่าธรรมเนียมระหว่าง 0.15% และ 0.4% ต่อปี ในขณะที่นักวางแผน ทางการเงินอาจจะคิดค่าบริการราว 1-2% ต่อปี
  • หากต้องการคำแนะนำ จากนักวางแผนทางการเงิน คุณจะต้องใช้เงินใน การลงทุนจำนวนมาก เนื่องจากนักวางแผนทางการเงินบางคน อาจจะไม่รับงาน หากมูลค่าการลงทุนต่ำเกินไป

อย่างไรก็ดี ข้อเสียเปรียบเกี่ยวกับหุ่นยนต์ คือ มีบางอย่างที่ไม่สามารถทำได้เหมือนมนุษย์ เช่น การให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องภาษี หรือคำแนะนำทางการเงิน หรือคำแนะนำในการจัด ลำดับความสำคัญ ของเป้าหมายทางการเงิน (เช่น ควรชำระหนี้ หรือ เก็บออมเงินก่อน) เป็นต้น

สำหรับในวงการ FinTech มีธุรกิจสตาร์ทอัพมากมาย ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญ และความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ จึงนำ ประโยชน์ตรงนี้มาใช้ในการลงทุนเช่นกัน

Artificial Intelligence (AI) คืออะไร

ปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เรียกกันว่า AI คือ โปรแกรมที่ถูกเขียน และพัฒนาให้มีความฉลาด มีความสามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน และตัดสินใจได้ โดยการประมวลผลจากฐานข้อมูลขนาดใหญ่ มากไปกว่านั้นยังสามารถ ดัดแปลงการประมวลผล ประยุกต์ ให้เป็นไปตามสถานการณ์ต่างๆ เช่น Amazon Alexa และ Siri ดังนั้นงานประเภทใดก็ตามที่มีการทำงานเป็นรูปแบบ ก็สามารถถูก ปัญญาประดิษฐ์แทนที่ได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ งานบัญชี หรือการวิเคราะห์การเงิน การลงทุน และสินเชื่อ แม้แต่งานที่ซับซ้อน ต้องใช้การคิด วิเคราะห์ ก็สามารถถูกแทนที่ได้เช่นกัน โดยสำหรับวงการเทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) ก็มีการนำ AI มาใช้อย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจการกู้ยืมเงิน ธุรกิจประกัน การเรียกเก็บหนี้ หรือการทำ Credit Scoring ซึ่งหากเรารู้จักนำเทคโนโลยี AI มาใช้ให้เป็นประโยชน์ และรู้จักปรับตัว พัฒนาความรู้ และทักษะของตนเองอยู่เสมอ ก็จะสามารถสร้างรายได้ได้มากมาย

ลงทุนด้วย Robot หรือคนดีกว่ากัน?

การลงทุนไม่ว่าจะด้วย Robot หรือคน ย่อมมีข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันออกไป มีธุรกิจมากมายที่นำความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ มาเป็นตัวช่วยยกระดับธุรกิจ ในต่างประเทศก็มีการใช้ AI มาวิเคราะห์ และตัดสินใจซื้อขายหลักทรัพย์ โดยมีการป้อนข้อมูลทางปัจจัยพื้นฐาน รวมไปถึงข้อมูลตัวเลข และสถิติต่างๆ เพื่อใช้ในการประมวลผล ในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีการประมวลผล จากฐานข้อมูลมหาศาลอย่าง Big Data โดยการหาความสัมพันธ์ที่คนอาจจะมองข้ามไป ซึ่งผลงานที่ออกมาถือว่าน่าพอใจทีเดียว แต่เรื่องนี้อาจจะใหม่ อยู่สำหรับประเทศไทย เนื่องจากเรากำลังอยู่ในช่วงของ การศึกษาทำความเข้าใจ

ดังนั้นหากถามว่าการลงทุนด้วยหุ่นยนต์ หรือ คน แบบไหนดีกว่ากัน อยากให้ลองตั้งคำถามกับตัวเองว่า วัตถุประสงค์ในการลงทุนด้วยหุ่นยนต์ของคุณคืออะไร? หากการลงทุนของ คุณในปัจจุบันมีจุดบอดที่ควรได้รับการแก้ไข ก็ย่อมมีประโยชน์หาก มีหุ่นยนต์มาเป็นตัวช่วย เช่น การมอนิเตอร์สภาพตลาด การวิเคราะห์ และมองหาหุ้นที่ควรเข้าซื้อ หรือดำเนินการส่งคำสั่งซื้อ และขายแทนเรา ทำให้เราไม่ต้องตัดสินใจลงทุนด้วยอารมณ์​ และไม่ต้องคอยเฝ้าอยู่หน้าจอตลอดเวลา แต่หากปัจจุบันการลงทุน ของคุณมีประสิทธิภาพดีอยู่แล้ว ก็อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องลงทุนกับหุ่นยนต์เพื่อการนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร AI ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรศึกษาเอาไว้ เพราะในอนาคต เชื่อว่าจะมีการพัฒนา ให้หุ่นยนต์ มีความสามารถ ทักษะ และความฉลาดเพิ่มขึ้นไปอีก

PeerPower คือผู้ให้บริการ ระบบคราวด์ฟันดิงในประเทศไทย โดยเราได้พัฒนาระบบ เครดิตสกอริ่งขึ้น เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือ ของผู้เสนอขายหุ้นกู้ เพียร์ พาวเวอร์ยังได้ ทำการคิดค้นระบบ auto-invest ซึ่งช่วยนักลงทุน ในการลงทุนอัตโนมัติ ตามความต้องการของนักลงทุน เช่น ระดับความเสี่ยง ประเภทธุรกิจที่สนใจ ระยะเวลาในการลงทุน เป็นต้น

Digit เป็น FinTech Startup ด้านการออม โดยใช้ AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงิน ในบัญชีกระแสรายวันที่ไม่มีดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำ จากนั้นจะทำการย้ายเงินไปยังบัญชีของ Digit เพื่อนำไปลงทุนเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่ดีกว่าการแช่เงินเอาไว้เฉยๆ

Lemonade เป็นบริษัทประกันภัยที่เน้นเรื่องการประกันที่อยู่อาศัย และการประกันการเช่าที่อยู่อาศัย มีการใช้เทคโนโลยี AI มาคำนวณแผนกรมธรรม์ รวมถึงการใช้ Chatbot เพื่อสื่อสารกับลูกค้า โดยมีสามารถเสนอแผนได้ภายในระยะเวลาเพียง 90 วินาทีเท่านั้น

Affirm เป็นบริษัททำธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลแบบเรียลไทม์ เพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์ Credit Scoring เพื่อประมวลผลอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย

การนำเทคโนโลยีมาใช้กับงาน ในสาขาใดสาขาหนึ่งนั้นเทคโนโลยี มีความสำคัญ 3 ประการ คือ

1.ประสิทธิภาพ (Efficiency) เทคโนโลยีจะช่วยให้ การทำงานบรรลุ ผลตามเป้าหมายได้ เที่ยงตรงและรวดเร็ว

2.ประสิทธิผล (Productivity) เกิดผลผลิตเต็มที่ ได้ประสิทธิผลสูงสุด

3.ประหยัด (Economy) ประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน ลงทุนน้อยแต่ได้ผลมาก

ความสำคัญของเทคโนโลยี

1.เป็นพื้นฐานปัจจัย จำเป็นในการดำเนินชีวิตของมนุษย์

2.เป็นปัจจัยหลัก ที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา

3.เป็นเรื่องราว ของมนุษย์ และธรรมชาติ

ติดตามเรื่องราว “เทคโนโลยี” กันต่อได้ที่

เทคโนโลยี การสื่อสาร เมื่อดิจิตอลพัฒนาถึงขีดสุดในอีก 10 ปีข้างหน้า