โปรais 200

โปรais 200

โปรais 200 AIS ผนึกกำลัง 5 ซุปเปอร์ฟู้ดเดลิเวอปรี่ Grab, foodpanda, LINE MAN Wongnai, Gojek และ Robinhood เชิญชวนชาวไทยอิ่มฟินอยู่บ้าน ไม่เป็นอันตราย ไกลวัววิด พร้อมหนุน ร้านอาหาร รอดไปด้วยกันตอนวันที่ 6 พ.ค. 64 นางบุษยา สถิรพิพัฒน์กุล ผู้บริหารหน่วยงานธุรกิจดูแลลูกค้าและสิทธิประโยชน์

โปรais 200

บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือหัวหน้า กล่าวว่า ท่ามกลางสถานการณ์โควิดระลอกใหม่ที่จำนวนผู้ติดเชื้อโรคยังน่าวิตก สิ่งที่ชาวไทยจะมีส่วนร่วมจัดการกับเหตุการณ์นี้ได้เป็น การอยู่บ้าน เพื่อลดการติดต่อสัมผัสกระจายเชื้อ โดยเหตุนั้น 1

ในสิ่งที่จำเป็นที่จำเป็นต้องระหว่างการอยู่บ้านเป็นเมนูอาหารที่นานาประการ ในราคาที่คุ้ม จากร้านค้าที่ไว้ใจได้ทั้งนี้ ก็เลยเป็นต้นเหตุของความร่วมแรงร่วมมือระหว่าง กับหัวหน้าบริการฟู้ดเดลิเวอปรี่ทั้ง 5 รายเป็นGrab, foodpanda, LINE MAN Wongnai, Gojek และก็ Robinhood

เพื่อมอบสิทธิพิเศษจากรายการอาหารอร่อยให้แก่ลูกค้า ให้สามารถรับสิทธิพิเศษเมื่อสั่งอาหารจากอีกทั้ง 5 ราย ที่มีร้านที่ร่วมรายการกว่า 300,000 ร้านทั้งประเทศ เพียงแค่ใช้ AIS Points แลกรับการลดราคาสูงสุด 60 บาท โดยลูกค้าสามารถแลกรับสิทธิ์ได้ไม่ยากผ่าน

Application myAIS ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปสำหรับแคมเปญ ผนึกกำลังกิน ฟินอยู่บ้าน กับ เอไอเอส เพียงพอยท์ นับว่าเป็นเพียงแค่รายเดียวที่ร่วมมือกับฟู้ดเดลิเวอปรี่อีกทั้ง 5 แบรนด์ ซึ่งมีส่วนสำคัญสำหรับการอำนวยความสะดวกระหว่างอยู่บ้านของคนประเทศไทยท่ามกลางเหตุการณ์การแพร่ระบาด

และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นหมายถึงได้ร่วมเกื้อหนุน ช่วยเหลือ เป็นอันมากใจให้ผู้ประกอบการธุรกิจห้องอาหารทุกกลุ่มที่อาจไม่อาจจะเปิดให้เข้าไปนั่งกินในร้านค้าได้ รวมถึงพนักงานส่งอาหาร หรือ ไรเดอร์ของฟู้ดเดลิเวอปรี่แต่ละแบรนด์ ที่เสมือนฮีโร่ที่ส่งอาหารอร่อยหลากหลายรายการอาหารให้ชาวไทยอยู่บ้านได้โดยสวัสดิภาพนอกเหนือจาก

เอไอเอส จะช่วยเหลือให้คนอยู่บ้าน แต่ว่าก็ยังสามารถ Stay Connect กับวงศ์ญาติ เพื่อนพ้อง หรือคนที่รัก ได้ไม่ยากอีกด้วย เพียงแต่สั่ง Food Delivery มาส่งที่บ้าน แล้ว VDO Call ทานข้าวด้วยกัน เสวนากัน นับเป็นวิถี New Normal ที่ช่วยทำให้อยู่บ้านไม่มีเหงา แถมอิ่มฟินเพิ่มขึ้นด้วยการใช้ AIS Points แลกส่วนลดค่าอาหารได้สูงสุดถึง 60 บาท ผ่านทาง myAIS ซึ่งทั้งสิ้นนี้ล้วนมีส่วนทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยยังสามารถเดินหน้าต่อได้ท่ามกลางช่วงลำบาก.

AIS เผยผลประกอบการไตรมาส 1/2564 ทำรายได้รวม 45,861 ล้านบาท เติบโต 7% เทียบกับปีกลาย

ในขณะที่ธุรกิจโทรศัพท์มือถือเริ่มฟื้นตัว ส่วนเน็ตบ้านแข็งแกร่งโตเหนือตลาดช่วงวันที่ 30 เม.ย. 64 นายสมชัย เลิศเลอสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ กล่าวว่า ผลของการดำเนินงานของบริษัทไตรมาส 1/64

ทำรายได้รวมอยู่ที่ 45,861 ล้านบาท เติบโต 7% (YoY) เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ล่วงเลยไป โดยผลกำไรก่อนดอก ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย หรือ EBITDA น้อยลงเล็กน้อย 0.9% (YoY) แต่ว่าในไตรมาสแรกของปีนี้เริ่มฟื้นตัวขึ้นโดย EBITDA เติบโต 1.6% (QoQ)ดังนี้ ได้ผลจากการบริหารจัดการทุน หากว่ายังมีการขยายเครือข่ายอย่างสม่ำเสมอโดยยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยี 5G

แต่ ยังคงสามารถควบคุมค่าครองชีพวิธีขายและก็บริหารให้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ด้านกำไรทั้งสิ้นสำหรับไตรมาสแรกปี 2564 ลดน้อยลง 1.7% (YoY) ได้ผลกระทบของ COVID-19 รวมทั้งการแข่งขันชิงชัยที่ยังคงสูงต่อเนื่องมายังปีนี้ ดังนี้กำไรสุทธิต่ำลงที่ 7.3% จากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ)

ซึ่งมีเหตุที่เกิดจากการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน และก็สิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับในไตรมาส 4/2563สำหรับภาพรวมรายได้ธุรกิจโทรศัพท์มือถือในไตรมาส1/64 น้อยลง 3.2% (YoY) แม้กระนั้นมีการเติบโตขึ้น 1.2%(QoQ) เทียบกับไตรมาสก่อนหน้า มีต้นเหตุจากยอดผู้รับบริการใหม่ที่เติบโตสูง

รวมถึงมาตรการจากภาครัฐที่ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของราษฎร

โดยรายได้ในกลุ่มผู้ใช้บริการทุกเดือน หรือ Postpaid ยังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีปริมาณเพิ่มขึ้นสุทธิกว่า 442,400 หมายเลขในไตรมาสก่อนหน้าที่ผ่านมาส่วนกลุ่มผู้ใช้บริการแบบเพิ่มเติมเงิน หรือ Prepaid นั้นมีการฟื้นตัวโดยตลอด

แล้วก็มีปริมาณเลขหมายเพิ่มขึ้นสุทธิ 887,900 หมายเลข ทำให้ปัจจุบันยังครองผู้ให้บริการลำดับต้นๆที่มีผู้รับบริการมากที่สุดถึง 42,767,100 เลขหมาย เวลาที่ตลาดยังคงเน้นแพ็กเกจดาต้าแบบใช้งานไม่จำกัด ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบโดยเฉพาะในสภาพเศรษฐกิจที่ลูกค้าอยากออมค่าใช้จ่ายส่วนอัตราการเติบโตของผู้รับบริการ 5G

นั้น บริษัทได้ขยายเครือข่าย 5G ครบ 77 จังหวัด จบไตรมาส 1/64 โดยคาดว่าจะมีผู้รับบริการ 5G แล้วกว่า 7 แสนราย โดยวางเป้าสู่ 1 ล้านรายภายในปีนี้สำหรับธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้าน ยังคงได้รับเหตุบวกมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อีกทั้งจากการทำงานที่บ้าน (WFH)

ของบริษัทจำนวนมากหรือแม้กระทั้งการศึกษาเล่าเรียนของเด็กนักเรียน นิสิต ที่การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งจำเป็น และมีความหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ AIS Fibre มีผู้ใช้บริการมากขึ้น 95,000 ราย หรือมากขึ้น 7% จากสิ้นปี 63ทำให้มีผู้รับบริการรวมแล้วกว่า 1.43 ล้านรายทั่วประเทศ

แม้ว่าระดับรายได้เฉลี่ยทุกเดือนต่อลูกค้าหรือ ARPU จะน้อยลงจากการประลอง แต่ว่าภาพรวมของรายได้ยังคงเติบโตกว่า 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ais คิดเป็นรายได้ 1,919 ล้านบาท เอไอเอสไฟเบอร์ยังคงยืนหยัดผู้นำธุรกิจเน็ตบ้านที่เติบโตสูงสุดและแกร่งเหนือตลาดนายสมชัย

กล่าวอีกว่า สัญญาณการฟื้นฟูสภาพของธุรกิจในไตรมาสแรกปีนี้ บางทีอาจไม่ได้มีผลต่อตัวเลขระยะยาวอะไร เนื่องจากเวลานี้เรากำลังอยู่ในช่วงการระบาดระลอกที่ 3 ของ COVID-19 ซึ่งอาจจะมีความร้ายแรงกระทบต่อภาคธุรกิจตลอดทั้งปี

แต่ว่าหลักการทำงานของพวกเรายังคงเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างต่อเนื่องตามงบประมาณที่ตั้งไว้กว่า 25,000-30,000 ล้านบาท เพื่อนำประสิทธิภาพ 5G เข้าฟื้นฟูประเทศผ่านการทำงานร่วมกับอุตสาหกรรมต่างๆในทุกมิติ ซึ่งเป็นแผนงานที่พนักงานทุกคนยังคงดำเนินการอย่างมาก เพื่อ 5G เกิดคุณประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน

สมชัย CEO แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส ย้ำวันนี้เมืองไทยต้องการ “วัคซีนวัววิด” และก็จำเป็นต้องฉีดให้จบในไตรมาส 2/64 เพื่อเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าถัดไปในไตรมาสที่ 3 แนะรัฐเร่งออกมาตรกาเกลื่อนกลาดระตุ้นเศรษฐกิจแบบยืนยงตอนวันที่ 21 เม.ย. 64 สมชัย ยอดเยี่ยมสุทธิวงค์

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือเปิดเผยว่า หลังจากหอการค้าไทยได้มีการจัดสัมมนา 40 CEO ชั้นนำของไทยเพื่อหาวัคซีนโควิด-19 ช่วยรัฐบาลไปช่วงวันที่ 19 เม.ย. 64 ก่อนหน้านี้ถือเป็นเรื่องที่ดีที่เห็นภาคเอกชนประกาศช่วยเหลือ

เพื่อให้เมืองไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤติวัววิดนี้ไปได้ ซึ่งเราก็เริ่มเห็นแนวโน้มว่ารัฐบาลก็เริ่มเปิดรับแนวคิดต่างๆจากภาคเอกชน ในมุมมองของผมก็ต้องการที่จะให้เกิดแนวคิด 3 ประสานนั้นก็คือ รัฐบาล เอกชน และประชาชนชาชนจำเป็นจะต้องก้าวพ้นวิกฤติไปร่วมกัน

กลับสู่หน้าหลัก