kw

kw

kw บริษัทตัวแทนขายและก็ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา แล้วก็ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน เรียลเอสเตท จำกัด (Capital One Real Estate) เปิดเผยว่า ได้แลเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต

 
kw บทความ ขนาดแรงม้า (HP) กิโลวัตต์  รวมทั้งกิโลโวลต์แอมป์ (kVA) สัมพันธ์กันอย่างไร ?ขนาดแรงม้า (HP) กิโลวัตต์ (kW) และกิโลโวลต์แอมแปร์ (kVA) เกี่ยวข้องกันอย่างไร ?

อีกทั้งสามเป็นหน่วยบอกขนาดกำลังของเครื่องจักรเครื่องใช้ไม้สอย โดยที่เครื่องจักรกล อย่างเช่น กังหันก๊าสหรือกังหันไอน้ำ ใช้ได้เฉพาะหน่วย HP และ ช่วงเวลาที่เครื่องจักรกระแสไฟฟ้า

ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์สำหรับกำเนิดไฟฟ้า สามารถใช้ได้อีกทั้งสามหน่วย
1 HP = 746 W หรือ 0.746 kW
5 HP = 3730 W หรือ 3.73 kWขนาดพิกัดกำลังการผลิตของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Nominal Rated Capacity) นอกเหนือจากที่จะระบุเป็นกำลัง  st suspension  v3 กระแสไฟฟ้าใช้งานจริง

kW (Active Power) แล้ว สามารถระบุได้ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานร่วมกับโช้ค เป็นอันมากไฟฟ้าปรากฏ kVA (Apparent Power) ด้วย โดยมีรูปร่างระหว่างกันเป็นค่าจ้างประกอบกำลัง (Power Factor) ซึ่งส่วนมากอยู่ระหว่าง 0.8 – 1.0 ดังนี้ เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสไฟตรงมีค่าตัวประกอบกำลังเท่ากับ 1.0 หรือ  = kVA

P.F. = kW / kVA
kVA = kW / P.F.
1000 kVA = 800  / 0.8 กล่าวอีกนัยหนึ่ง กำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าขนาด 1000 kVA พอๆกับ 800  ที่ตัวประกอบกำลังของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ 0.8
1000 kVA = 800  = 1072 HPแรงม้า (Horse Power)แรงม้าหรือกำลังม้า เป็นหน่วยวัดกำลังหรืออัตราการทำงานโดยระบุว่า 1 แรงม้าเป็นอัตราการทำงานได้ 550-ฟุต-ปอนด์ต่อวินาที

1 แรงม้า มีค่าพอๆกับ 745.5 วัตต์ (746 วัตต์)ความแตกต่างระหว่าง W hเมื่อ ระบบพลังงานจากแสงอาทิตย์ มีหน้าที่ในตอน

นี้ ด้วยเซลล์แสงอาทิตย์มีราคาต่อวัตต์ (Watt) ที่ถูกลงขึ้นทุกวี่วัน

เป็นปัจจัยให้หลายท่านหันมาใช้ระบบโซล่าเซลล์กันมากขึ้นเรื่อยๆ ก็เลยจำเป็นต้องรู้หน่ายของ กิโลวัตต์และก็กิโลวัตต์ชั่วโมงและก็เมกะวัตต์ ที่ใช้กันบ่อยๆ
1. วัตต์ (watt, W) เป็นหน่วยเอสไอของกำลังตั้งชื่อตาม เจมส์ วัตต์

ตัวอย่างพลังงานในหน่วยวัตต์ ตัวอย่างเช่น หลอดไฟฟ้าที่ใช้ตามบ้านใช้ 100 วัตต์

1 วัตต์ มีค่าพอๆกับ 1 จูล ของ พลังงาน ต่อ วินาที
1 W = 1 J/s = 1 นิวตัน เมตร ต่อ วินาที = 1 kg·m2·s−3

2. กิโลวัตต์ (kW) ซึ่งก็คือ วัตต์ x 1,000 นั่นเองกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) เป็นจำนวนพลังงานที่ถูกใช้ในอัตรา 1,000 วัตต์เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หรือ 1 หน่วยไฟฟ้าแบบอย่าง เปิดไฟฟ้าหลอดละ 100 วัตต์

ปริมาณ 1 หลอด จำนวน 10 ชั่วโมง รวม 100×10=1,000 วัตต์ = 1 หน่วย ส่วนหลอดไฟฟ้า 100 วัตต์ จำนวน 10 หลอด จำนวน 1 ชั่วโมง รวม 100×10=1,000 วัตต์ = 1 หน่วย

แบบเดียวกันจากตัวอย่างถ้าเกิดเราใช้กระแสไฟฟ้า ไป 1 หน่วย แสดงผลออกมาจาก วัตต์อาวร์มิเตอร์ (Watthour Meter) เป็นมิเตอร์ที่ทำงานด้วยการเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้าถูกทำขึ้นมาให้ใช้งานเป็นมิเตอร์วัดพลังงานไฟฟ้าในบ้านเรือน ในโรงงานอุตสาหกรรมและก็ที่อื่นๆที่ต้องใช้ไฟฟ้า

โดยวัดกำลังไฟฟ้าออกมาเป็น กิโลวัตต์ชั่วโมง (Kilowatthour : h)ผมเชื่อว่า ทุกคนที่อ่านบทความนี้ คงจะเคยเสิร์ชในอากู๋แล้วล่ะว่า…แรงม้า คืออะไร และส่วนมากก็จะเจอกับนิยามแบบว่า แมวยังงวยงง ดังเช่นว่า แรงม้าหมายถึงแรงที่ม้าหนึ่งตัวใช้กีฬายกน้ำหนัก 75 โลให้เคลื่อนในทิศ  st suspension  v3 แนวดิ่งเป็นระยะทาง 1 เมตร

ในเวลา 1 วินาที ซึ่งมีค่าพอๆกับ 550 ฟุต-ปอนด์ ต่อวินาที …อืม ไม่ใช่แค่แมวที่งงมาก ผมเองก็ยังสับสนเลยครับผม …ก็โอเคแหละ นิยามแบบนี้มันก็ถูกต้องตามหลักทฤษฎีวิศวกรรมอ่ะนะ แต่ว่ามันลึกไปหรือเปล่า มันไม่ตรงกับที่พวกเราต้องการรู้หรือไม่ในวันนี้ ผมจึงได้เรียบเรียงบทความสั้นๆเกี่ยวกับนิยามของแรงม้า

แบบที่นำไปใช้ได้จริง รวมถึงศัพท์เชิงเคล็ดลับเกี่ยวกับแรงม้าทั้งสิ้น ซึ่งผมคิดว่ามันน่าจะเป็นผลดีสำหรับผู้ที่สนใจในเรื่องของรถยนต์รวมทั้งเครื่องจักรแรงม้า (Horsepower, HP)

หมายถึงหน่วยที่ใช้วัด กำลัง ของเครื่องจักร ซึ่งถูกนิยามขึ้นมาโดยวิศวกรเครื่องกลไกชาวสก็อตแลนด์ที่ชื่อว่า James Watt (เจมส์ วัตต์) โดยมีจุดประสงค์เพื่อชี้กำลังที่สร้างได้ของเครื่องยนต์กลไกสันดาปข้างใน เครื่องยนต์กลไกเทอร์ไบน์ รวมไปถึงมอเตอร์กระแสไฟฟ้า

เว้นแต่หน่วยวัดกำลังที่ชื่อว่า แรงม้า แล้ว ยังมีหน่วยวัดกำลังของเครื่องยนต์ หน่วยอื่นๆที่เราสามารถประสบพบเห็นได้ออกจะบ่อยมาก ยกตัวอย่างเช่น PS, kW, BHP, WHP แล้วก็ IHP มากไม่น้อยเลยทีเดียวมากมายไปหมด แล้วก็แน่ๆว่าในเนื้อหานี้ ผมก็ได้สรุป

คำศัพท์พวกนี้แบบสั้นๆเข้าใจง่ายๆไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วครับ…

1. BHP แรงม้าของเครื่องยนต์กลไกนี่ก็คือแรงม้าตัวที่เราได้ยินบ่อยมากที่สุด BHP ย่อมาจาก Brake Horse Power (เบรก ฮอร์ส พาวเวอร์) เป็นแรงม้าที่วัดจากเครื่องจักรเพียงอย่างเดียว

(ไม่รวมระบบส่งกำลัง – เกียร์และเฟืองด้านหลัง) โดยจะวัดโดยตรงที่ล้อช่วยแรงหรือที่เรียกว่า Fly Wheel (ฟลาย วีล) นั่นเองครับสำหรับการทดลองของฝั่งยุโรปนั้น จะนำเครื่องยนต์และวัสดุอุปกรณ์ต่อพ่วง รวมถึงท่อไอเสียที่มีความยาวเท่ากันที่ใช้ในรถยนต์จริงมาทดสอบวัดค่าจ้างม้า

(เครื่องใช้ไม้สอยต่อพ่วงที่ผมซึ่งก็คือนั้น ชูเช่น ปั๊มน้ำมันพาวเวอร์, ไดชาร์จ, ปั๊มน้ำหล่อเย็น ฯลฯ) แต่ว่าสำหรับฝั่งอเมริกาแล้ว จะนำเฉพาะเครื่องจักรกลตัวเดียวกระโดดๆมาทดสอบ (ไม่มีเครื่องใช้ไม้สอยต่อพ่วง) โน่นนำมาซึ่งการทำให้แรงม้า BHP ที่ทดสอบโดยใช้มาตรฐานของอเมริกา จะมีค่ามากยิ่งกว่าฝั่งยุโรปเสมอครับผม
2. WHP แรงม้าที่ล้อ

WHP ย่อมาจาก Wheel Horse Power (วีล ฮอร์ส พาวเวอร์) เป็นแรงม้าที่วัดได้โดยตรงจากล้อขับเคลื่อนของรถยนต์ (วัดจากไดโน่) ซึ่งถูกส่งกำลังผ่านคลัทช์ ชุดเกียร์ และก็เฟืองท้าย โดยเหตุนี้ แรงม้า WHP เป็นกำลังสุทธิที่ขับเคลื่อน  st suspension  v3 รถยนต์ ดังนั้น…รถจะแรงจริงหรือแรงไม่จริง…เค้าก็มองแรงม้า WHP นี่หล่ะครับผม
3. IHP แรงม้าในแง่ทฤษฎี

IHP ย่อมาจาก Indicated Horse Power (อินดีเคทิท ฮอร์ส พาวเวอร์) คงจะไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าเท่าไรนะครับสำหรับแรงม้าตัวนี้ โดย IHP หมายถึง แรงม้าในแง่ทฤษฎี ที่ได้จากการคำนวณจากกรรมวิธีการเทอร์โมไดนามิคส์ ซึ่งจะไม่คิดแรงเสียดทานใดๆที่เกิดขึ้นด้านในเครื่องจักร หรือที่เรียกว่า FHP (Friction Horse Power)โดย IHP จะมีความเกี่ยวเนื่องกับ BHP และก็ FHP ตามสมการข้างล่างนี้ครับผม

BHP = IHP – FHPแรงม้าจากเครื่องจักรกล = แรงม้าแนวคิด แรงม้าเสียดทาน
4. Power to Weight Ratio อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้า
Power to Weight Ratio ก็คือ อัตราส่วน

น้ำหนักของรถอีกทั้งคันต่อแรงม้าที่เครื่องยนต์กลไกสร้างได้ ซึ่งปกติแล้วจะมีหน่วยเป็น ปอนด์/แรงม้า หรือไม่ก็ โล/แรงม้า ซึ่งแสดงว่า ม้าแต่ละตัวที่เครื่องจักรสร้างได้นั้น หาม น้ำหนักอยู่กี่กิโล ดังนั้น ยิ่งหามน้ำหนักน้อย ก็จะส่งผลให้รถยนต์สามารถเร่งความเร็วได้ไวนั่นเองขอรับและนอกเหนือจาก WHP

แล้ว อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก ก็เป็นอีกค่าหนึ่งที่สามารถแสดงสมรรถนะของอัตรารีบได้อย่างเห็นได้ชัด โดยพวกเราสามารถคำนวณได้ไม่ยากได้จากสมการข้างล่างอัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก = น้ำหนักรถยนต์ / แรงม้าจากเครื่องยนต์จากสมการข้างต้น จะ

เห็นได้ว่า น้ำหนัก นั้น ส่งผลเป็นอย่างมากกับสมรรถนะของตัวรถ แล้วก็เคล็ดลับ วิชาตัวเบา

 

ที่พวกเรากำลังเอ๋ยถึงอยู่นี้ ก็คือคำตอบที่ว่าของปัญหาที่ว่า…เพราะเหตุไรรถยนต์ฮอนด้า-เครื่องสี่สูบ-ขับหน้าอย่าง Integra ถึงได้วิ่งแซงซุปเปอร์คาร์อย่าง Audi R8 แบบจำพวกที่ว่าอึ้งกันทั้งยังสนาม (คลิกที่บทความเสนอแนะเลยขอรับ)
5. Specific Horsepower แรงม้าสัมพัทธ์ (ในเชิงปริมาตร)แรงม้าสัมพัทธ์ หรือ

กำลังสัมพัทธ์ (Specific Horsepower หรือ Specific Output) เป็นแรงม้าที่บ่งชี้ถึงกำลังที่เครื่องจักรกลสร้างได้ต่อหน่วยหนึ่งปริมาตร ซึ่งธรรมดาแล้วจะมีหน่วยเป็น แรงม้า ต่อ

ลิตรโดยสามารถคำนวณได้จากสมการตั้งแต่นี้ต่อไปแรงม้าสัมพัทธ์ = BHP / ความจุของเครื่องยนต์ (ลิตร)ได้แก่ รถยนต์ Honda S2000 (AP1) คันข้างล่างนี้ ใช้เครื่องยนต์กลไกปริมาตร 2.0-ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ รหัส-F20C สามารถสร้างแรงม้าได้ 240-แรงม้า (BHP) ด้วยเหตุดังกล่าว แรงม้าสัมพัทธ์จะมีค่าพอๆกับ 240 BHP/ 2.0 ลิตร = 120 แรงม้า/ลิตร นั่นเองนะครับ

6. PS แรงม้าของรถยนต์เยอรมัน
PS ย่อมาจากภาษาเยอรมัน Pferdestrke หมายความว่า แรงม้า นั่นแหละครับผม โดยหน่วยวัดแรงม้าแบบ PS ยังคงใช้กันอย่างกว้างขวางในฝั่งยุโรปและก็อเมริกา โดย 1 PS จะมีค่าเท่ากับ 98.6% ของ 1 แรงม้า อย่างเช่น ถ้าเกิดรถยนต์คันหนึ่งมีกำลัง 100PS ซึ่งก็หมายความว่า รถยนต์นั้นมีแรงม้าพอๆกับ 98.6 แรงม้า นั่นเองครับความเกี่ยวข้องระหว่าง PS รวมทั้ง HP สามารถคำนวณได้ตามสมการข้างล่างนี้ครับ

1 PS = 0.986 HP
1 HP = 1.014 PS
7. kW กิโลวัตต์กิโลวัตต์ เป็นอีกหนึ่งหน่วย ที่ใช้วัดกำลังของเครื่องจักรเช่นเดียวกับแรงม้า แล้วก็หน่วยวัดกำลัง  ก็ยังคงเป็นที่นิยมใช้ ในกรุ๊ปผู้สร้างรถยนต์ในฝั่งยุโรป แต่ว่าโดยมากแล้ว เราจะมองเห็นกำลังของเครื่องจักรในหน่วย PS รวมทั้ง BHP มากกว่าขอรับพวกเราสามารถแปลงหน่วยจากกิโลวัตต์เป็นแรงม้า โดยใช้สมการข้างล่างนี้ขอรับ
1 kW = 1.341 HP

1 HP = 0.746 เอาละ…ผมรู้สึกว่า น่าจะชี้แจงค่อนข้างครบบริบรูณ์แล้วนะครับ หวังว่ารายละเอียดในเนื้อหานี้ อาจมีคุณประโยชน์กับท่านคนอ่านไม่มากก็น้อยนะครับ และในบทความถัดไป เราจะมาเล่าแจ้งแถลงไขคำถามยอดฮิตเกี่ยวกับเครื่องจักรกล ซึ่งก็คือ แรงม้า และ แรงบิด แตกต่างอย่างไร

Thailand ทุ่มงบ 100 ล้านบาทดึงเทคโนโลยีแล้วก็สิ่งใหม่การขายระดับโลกขยายฐานตลาดในไทย วางเป้า 5 ปี รับมือ  st suspension  v3 ความเคลื่อนไหวของธุรกิจนายหน้า เป็นสมัยของมือโปร ปั้นตัวแทนขาย 1,000 คน ปี’63 สร้างยอดจำหน่าย 5,000 ล้านบาท แล้วก็ขยายสาขาในประเทศไทย

วิทย์ กุลธนวิแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท KW Thailand บริษัทตัวแทนขายและก็ที่ปรึกษาการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา แล้วก็ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แคปปิตอล วัน

เรียลเอสเตท จำกัด (Capital One Real Estate) เปิดเผยว่า ได้แลเห็นเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต โดยถัดไปตลาดรองหรือตลาดมือสองจะเปลี่ยนเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่กลุ่มคนซื้อมีความสนใจ เพราะปัจจุบันตลาดรองแล้วก็ตลาดโครงงานใหม่ราคาไม่เหมือนกัน 20-40% ก็เลยได้วางแผนธุรกิจเพื่อสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต

“เราอยากได้ปรับปรุงตลาดรองให้มีฐานข้อมูลที่เป็นระบบเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งอยากเปิดโอกาสให้คนซื้อคอนโดมีตัวเลือกที่หลากหลายเยอะขึ้น ดังเช่นว่า โครงงานใกล้กัน เป็นหลักแสนบาทต่อตารางเมตร พวกเราก็เพียรพยายามจะพัฒนาฐานข้อมูลขึ้นมาเพื่อให้ลูกค้าได้มองเห็นข้อมูลเปรียบเทียบแผนการได้มากขึ้น”ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ตลาดรองหรือตลาดมือสองราคาจะเปลี่ยนแปลงไปตาม

ดีมานด์และก็ซัพพลาย โดยไม่มีกลไกที่เป็นระบบเข้ามาควบคุม

ทำให้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อโครงงานมือสองไม่ได้ราคาที่ดีซักเท่าไหร่จะเป็น หรือเปล่ามีฐานข้อมูลเพื่อเทียบราคาตั้งขึ้นบริษัท  Thailandล่าสุดบริษัทได้ร่วมลงนามคำสัญญากับบริษัท Keller Williams หรือ ตั้งขึ้นบริษัท  Thailand ที่แรกในประเทศไทย โดยการเซ็นต์ชื่อสัญญาระยะยาว 20 ปี

ด้วยการสร้างมูลค่าเพิ่มไม่ต่ำลงมากยิ่งกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัท  เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตสูงมากในช่วง 10 ปีให้หลังในอเมริกา เหตุเพราะเป็นบริษัทคนกลางอสังหาริมทรัพย์ที่มีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาช่วยอำนวยความสะดวกให้กับตัวแทนขาย รวมทั้งมีระบบผลตอบแทนแบบ Passive Income

หรือการใช้เงินดำเนินงานแทนตนเอง โดยสามารถทำให้คนที่มาเข้าร่วมงานกับบริษัท มีรายได้แบบไม่มีข้อจำกัดตามความสามารถของแต่ละบุคคลสำหรับเทรนด์ธุรกิจนายหน้าในอนาคตอีก 5 ปี

ต่อไปมีแนวโน้มเปลี่ยนไปจากเดิม เพราะว่าตลาดอยากผู้ขายที่มีความเป็นมืออาชีพเยอะขึ้น อีกทั้งยังเห็นช่องว่างการตลาดที่จะวิวัฒนาการขายอสังหาริมทรัพย์ระหว่างเจ้าของสมบัติพัสถานกับผู้บริโภค

นอกเหนือจากการทำการตลาดกับโครงงานใหม่ ซึ่งจะต้องใช้ระบบการพัฒนาเครือข่ายตัวแทนขายเข้ามาช่วยเคลื่อนนอกเหนือจากการทำการตลาดแบบทั่วไป ทั้งการพัฒนาฐานข้อมูลจำเป็นต้องที่ต้องใช้แพลตฟอร์มเดียวกันเพื่อสร้างช่องทางทางการขายให้มากขึ้น

กลับหน้าหลัก