เว็บดูหนังฟรี HDเต็มเรื่อง รีวิวหนัง “Medellín เราเป็นลูกเจ้าพ่อ(มั้ง)” สูตรสำเร็จเบิกบานบู๊วายป่วงในต่างเมืองมาท้าอิทธิพลมืดกับชาวกลุ่มจากประเทศฝรั่งเศส ในหนังแอคชั่นสุดฮาวายป่วงเรื่องปัจจุบันเชื้อชาติประเทศฝรั่งเศสใน “Medellín เราเป็นลูกเจ้าพ่อ(มั้ง)” ที่เป็นการประสมประสานของสูตรสำเร็จหนังบ็อกซ์บัสเตอร์ที่เคยชิน ออกมาเป็นปฏิบัติไล่ล่าแบบเฉพาะหน้า ที่ไม่รู้จักว่าจะตั้งใจจริงจริงจังหรือปลดปล่อยเซอร์ฮาสุดกำลังก็ไม่ยังมั่นใจ เพียงแค่นี่เป็นภารกิจของพวกเขา…ที่ไปกระตุกหนวดเสือจนได้เรื่อง
เว็บดูหนังฟรี HDเต็มเรื่อง แน่ๆว่าหนังหัวข้อนี้เสมือนสร้างออกมาเพียงแค่ตอบสนองตนเองของ “ฟร็องค์ มึงสต็องบิด”
ศิลปินประเทศฝรั่งเศสโด่งดัง ที่ครั้งเขามารับหน้าที่ดูแลงานสร้างภาพยนตร์เรื่องแทบจะทุกส่วน ไม่ว่าจะนั่งเก้าอี้ดูแลหนังเอง ร่วมเขียนบทหนังด้วย แล้วก็ยังมานำแสดงในหนังของตน ทำให้ทั้งหมดทุกอย่างอยู่ในสายตารวมทั้งมุมมองของเขาทั้งปวง ทำให้งานสร้างต่างๆออกจะลื่นไหลดี เว็บดูหนังฟรี HDเต็มเรื่อง เพียงแค่มันเป็นสูตรสำเร็จที่ใส่ความแปลกใหม่อะไรมิได้เลยในหัวข้อนี้ เป็นราวกับการถือเอาหนังดังหลายๆเรื่องมายำกันไว้ในประเด็นนี้
เอาแบบขวานผ่าซาก Medellín ประเด็นนี้มีส่วนผสมของหนังฮอลลิวูดดังๆด้ามจับมาผสมกันออกมาเกิดเรื่องใหม่ มีทั้งยังกลิ่นความวายป่วยไข้แบบ The Hangover ไล่ปัจจุบันระทึกแบบหนังเครือญาติ Fast แม้กระนั้นก็ไม่ทิ้งลายคอนเซ็ปต์ความเป็นหนังบู๊ฮาบ้าๆบอๆแบบขาดสติอยู่ ไม่เพียงเท่านั้นพอเพียงคุณดูหนังไปเพลิดเพลินๆก็จะพบว่า ฟร็องค์ มึงสต็องบิด ลักษณะราวกับ วิน น้ำมันดีเซล อะไรทำนองเลย
อย่างต่ำๆก็ยังดีที่หนังได้โอกาสมแคสติ้งที่ใช้ได้อยู่ เว็บดูหนังฟรี HDเต็มเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 3 ทหารเสือ
ฟร็องค์ เอ็งสต็องบิด ร่วมด้วย “ร็อมซี่ เบเดีย” กับ “อานูอาร์ ตูบาลี” พวกเขารวมกลุ่มเข้าขากันได้ดิบได้ดี หากว่าบทจะยังส่งไปได้ไม่ดีสักเท่าไหร่ในทางทีมเวิร์กก็ตาม ในเวลาที่ผู้แสดงเซอร์ไพรส์ อย่าง “ไมค์ ไทสัน” ก็แสดงออกมาเป็น ไมค์ ไทสัน นั่นแหละ เป็นตัวเสริมในโชว์ที่มาทำให้เพียงแค่ว้าว…แต่ว่ายังไม่มีอะไรให้จำ
โดยภาพรวมแล้วนั้น Medellín ก็ถือได้ว่าแอคชั่นขำขันจากประเทศฝรั่งเศสที่พอเพียงจะไปวัดไปวาได้ ถึงจะไกลห่างจากคำว่าเพอร์เฟ็คไปหน่อยก็ตาม ด้วยเหตุว่าให้ร้ายสนุกสนานเอาไว้เจริญเพียงแค่ตอนครึ่งแรก แม้กระนั้นตอนช่วงหลังกลับแผ่วๆแรงลงอย่างโชคร้าย มันเป็นหนังสูตรสำเร็จเก่าๆที่ยังสร้างความสนุกสนานให้กับผู้ชมก้าวหน้า เพียงแต่ในตอนท้ายแล้ว เมื่อหนังจบลงไป พวกเราก็มิได้ผูกพันและก็รู้สึกต้องการจะถือมันกลับมามองซ้ำอีกสักเท่าไหร่อีกแล้ว
หนัง Sonic the Hedgehog 2 หรือชื่อไทยว่า โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 2
เจอกับการกลับมาของเม่นสายฟ้าขวัญใจผู้ชมระดับนานาชาติ ซึ่งมากับการเสี่ยงภัยสุดสนุกในอีกระดับใน SONIC THE HEDGEHOG 2 โซนิค เดอะ เฮดจ์ฮ็อก 2 ภายหลังที่ย้ายมาลงหลักปักฐานที่กรีน ฮิลส์ โซนิค ต้องการจะพิสูจน์ตนเองว่าเขาเป็นวีรบุรุษที่จริงจริง การทดลองเริ่มเมื่อดร.โรบ็อตนิค กลับมาพร้อมทั้งผู้ช่วยเหลือใหม่ “นัคเคิลส์” พวกเขากลับมาค้นหามรกตที่มีพลังสำหรับเพื่อการทำลายอารยธรรม โซนิคร่วมกลุ่มกับเทลส์ พวกเขาด้วยกันเริ่มเดินทางท่องโลก เพื่อค้นหามรกตก่อนที่จะมันจะตกไปอยู่ในมือของคนร้าย จากกลุ่มผู้ผลิตที่อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังการบรรลุผลของ The Fast and the Furious แล้วก็ Deadpool SONIC THE HEDGEHOG 2 แสดงนำโดย เจมส์ มาร์สเดน, เบน ชวาร์ตซ์ ให้เสียงบรรยายโซนิค, ไทกา ซัมเทอร์, ที่นาตาชา คอยธเวลล์, อดัม พัลลี รวมทั้งจิม สนใจรี ที่กลับมาพร้อมทั้งชีมาร์ มัวร์ รวมทั้งเหนื่อยริส เอลบา ผู้บริจาคเสียงบรรยาย “นัคเคิลส์” แล้วก็ คอลลีน โอ ชอฟเนสซี ให้เสียงเป็น “เทลส์”
Sonic the Hedgehog ได้ปูมาตั้งแต่ภาคแรกแล้วว่าอาจมีภาคสองแน่นอนกับฉากด้านหลังเครดิต ที่มีการแสดงตัวมาของ Tails รวมทั้งยิ่งเวลาผ่านไปก็มีข่าวสารออกมาว่าจะมีการแสดงตัวของ Knuckles ยิ่งทำให้แฟนคลับSonic กระดี๊กระด๊า และก็ต้องการมองภาคต่อเร็วๆ
เนื่องจากว่าภาคแรกมันทำออกมาดูดีและก็บันเทิงใจเพลิดเพลินเลย ก็เลยทำให้มีความรู้สึกหนักใจนิดหนึ่งว่าภาคต่อมันจะยังคงรักษาประสิทธิภาพแล้วก็เก็บความดีเลิศต่างๆไว้ได้ไหม ผลที่ตามมามันทำเป็นว่ะคุณ ภาคนี้มันยังคงเพลิดเพลิน สนุกสนาน แอ็คชัน มัน ครบถ้วนสมบูรณ์
Sonic the Hedgehog 2 บอกเล่าเรื่องราวต่อจากภาคแรก เมื่อ Dr. Robotnik ได้หาทางออกมาจากมิติแปลกได้ เขาก็เลยหมายไปชำระแค้นตามล่า Sonic โดยได้รับความให้การช่วยเหลือจาก Knuckles แต่กระนั้น Sonic ก็มีเพื่อนฝูงใหม่แล้วก็ได้รับความให้การช่วยเหลือจาก Tails เช่นเดียวกัน
บทหนังมิได้สลับซับซ้อน และก็ใช้กรรมวิธีการเดินเรื่องแทบเป๊ะมาจากภาคแรกเลย ทางด้านองค์ประกอบทางสำหรับในการเดินเรื่องต่างๆไม่ใช่มันไม่ดีนะ มันทำดังเดิมแต่ว่ายังรักษาความสนุกสนานร่าเริง เฮฮา เพิ่มมุกรวมทั้งยกฐานะมันออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม บางฉากนี่เสมือนเอาแนวความคิดเก่ามาดีไซน์ใหม่ ตัวอย่างเช่นฉากในบาร์ หรือฉากแอ็คชันสโลว์โมชันสู้กับหุ่นของ Dr. Robotnik แม้กระนั้นนั่นแหละมันยังคงสนุกสนานอย่างเช่นเดิม
ใครกันแน่ที่เป็นแฟนๆของเจ้าเม่นสายฟ้าอย่าง Sonic จะต้องบอกเลยว่าในภาคนี้เต็มที่แน่ๆ เนื่องจากว่าตลอดทั้งเรื่องพวกเราแทบได้มองเห็นแต่ว่าหน้าของ Sonic เลย แต่ว่ามันก็เกิดเรื่องที่แอบโชคร้ายแบบเดียวกัน เพราะว่ามีความคิดว่าเครื่องปรับอากาศไทม์ของ James Marsden ในบท Tom Wachowski ต่ำลงอย่างโชคร้าย เรื่องราวความเกี่ยวข้องของทั้งสองในภาคนี้ก็เลยมิได้อินและก็เสมือนไม่ใช่จุดสำคัญของเรื่องราวเท่าไร มีเพียงแค่บอกคติเตือนสติกันบางส่วนเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นมันก็มิได้ทำให้หนังสนุกสนานลดน้อยลง เพราะเหตุว่าเพียงพอมันเปลี่ยนเป้าหมายไปที่ Sonic แบบเต็มๆพวกเราก็จะได้มองเห็นแอ็คชันต่างๆของ Sonic เยอะขึ้น จัดหนัก จัดเต็ม มีฉากแอ็คชันเพิ่มมากขึ้น ดียิ่งขึ้น รวมทั้งสนุกสนานขึ้น ที่สำคัญแฟนคลับSonic มีกรี๊ดแน่ๆ เนื่องจากว่าฉากเซอร์วิสที่มีความคิดว่าแฟนคลับคงจะทายใจไม่ยากแม้กระนั้นพอใช้ได้มองเห็นแล้วเป็นปลาบปลื้ม รวมทั้งฉากก่อน End-Credit ที่กรี๊ดแตกไม่แพ้กัน แฟนคลับจำเป็นต้องบอกเลยว่าห้ามพลาด!
หนัง The Batman – เดอะ กางทแมน
ตรงเวลา 10 ปีอย่างยิ่งจริงๆ กับการได้มองเห็นหนังลำพัง Batman หนสุดท้ายใน The Dark Knight Rises (2012) แสดงโดย Christian Bale ของ Christopher Nolan ถึงจะผลงานรวมกลุ่มใน Justice League (2017) ที่แสดงโดย Ben Affleck แต่ว่าก็ไม่ใช่หนังคนเดียวกางทแมนจริงๆอยู่ดี ตราบจนกระทั่งนี่แหละ การมาของ The Batman ฉบับ Robert Pattinson ผ่านผลงานการควบคุมของ Matt Reeves
Matt Reeves ได้บอกไว้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าหนัง Batman ของเขาจะไม่เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา จะย้ำแนวสอบปากคำ ให้ราวกับความเป็น Batman ในคอมิกส์ต้นฉบับกับสมญานาม The World’s Greatest Detective หรือสายสืบที่เก่งที่สุดในโลก ซึ่งถ้าเกิดคนไหนกันแน่ที่ได้ติดตามผู้แสดงนี้มาอีกทั้งในคอมิกส์หรือเกม จะมองเห็นได้ว่านอกจากการออกหมัดแล้วก็เท้าทำลายล้างผู้ร้ายในเมือง Gotham แล้ว สิ่งจำเป็นของนักแสดงนี้เป็นการไต่สวนคดีต่างๆแล้วก็โน่นเป็นไอเดียเริ่มกับการนำมาสร้างเป็นหนังประเด็นนี้ แล้วก็เขาได้เลือกตัวร้ายอย่าง The Riddler (Paul Dano) ก็ยิ่งเหมาะสมกับการเดินเรื่องแนวสอบสวนเป็นอย่างมาก
นี่เป็นหนัง Batman ที่ต่างจากหนังกางทแมนที่เคยทำมาฉบับไหนๆทั้งหมดทั้งปวง เพราะเหตุว่านี่เป็นหนังอาชญากรรมสืบสวนเลย มีกลิ่นความเป็น Se7en (1995) อยู่ไม่น้อย ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวของ Bruce Wayne ที่รับหน้าที่เป็นอัศวินกลางคืน Batman มาเป็นระยะเวลา 2 ปี รอสร้างความหวาดกลัวให้ผู้กระทำผิดกฎหมายเมือง Gotham จนกระทั่งเขาจำเป็นต้องมาสืบคดีใหญ่ของฆาตกรโรคจิตนามว่า The Riddler (Paul Dano) เขาจำเป็นต้องสืบเสาะหาข้อเท็จจริงร่วมกับ James Gordon (Jeffrey Wright) รวมทั้งมันนำพาเขาไปพบกับบุคคลจำนวนมาก ทั้งยัง Selina Kyle (Zoë Kravitz), Oswald Cobblepo/The Penguin (Colin Farrell), Carmine Falcone (John Turturro) และก็อีกเยอะมาก
จำเป็นต้องบอกก่อนว่าหนังเหมาะสมกับผู้ที่รู้จักและก็ติดตามกางทแมนมาบ้าง เนื่องจากว่าหนังจะไม่เล่าราวความเกี่ยวข้องกับนักแสดงอะไรก็แล้วแต่ไหมได้ย้อนภาพแฟลชแบ็กการตายของบิดามารดา Bruce Wayne ให้มองเห็นอะไร บ้านผลบอล รวมทั้งนักแสดงห้อมล้อมต่างๆที่ถ้าเกิดไม่ใช่แฟนบางทีอาจจะไม่อินและไม่เข้าถึงความเกี่ยวพันต่างๆสักเท่าไหร่ แม้กระนั้นมันก็มิได้ถึงกับจะมีผลให้มองไม่รู้เรื่อง แม้กระนั้นหากติดตามเรื่องราวของกางทแมนมาบ้างก็จะมองสนุกสนานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
หนังมีความ Slow Burn กับความยาวเกือบจะ 3 ชั่วโมง เบาๆเล่าอย่างช้าๆอ่อนโยน ผ่านปัญหาการไขคดีของ Batman ซึ่งในพาร์ทการไขคดีมันก็มิได้สลับซับซ้อนหรือซีเรียสสักเท่าไหร่ จริงๆมันคงจะไปได้สุดทางกว่านี้ มันแทรกสอดการแอ็คชันเป็นช่วงๆรวมทั้งแต่ละฉากแอ็คชันก็ดุดัน ดิบ ไม่มีอารยธรรม ร้ายแรงใช่เล่น แต่ว่าแต่กระนั้นมันก็มิได้ทำให้หนังน่ารำคาญอะไร
แม้พวกเราจะรู้สึกตัวคนร้ายตั้งแต่ต้นแล้วว่าเป็น The Riddler ความเพลิดเพลินมันก็เลยไม่ใช่ความเป็น Whodunit การตามหาตัวคนร้าย แต่ว่ามันเป็นหัวข้อการสืบเสาะหาบางสิ่งบางอย่างที่ตัวคนร้ายอยากนั่นแหละ ตัวหนังตั้งแต่ต้นกระทั่งจบมันก็เลยมีความแจ่มชัด แน่แน่ว ไม่ออกนอกทางนอกทา ตรงประเด็นรวมทั้งเล่นเรื่องพวกนั้นก้าวหน้า แอบเสียดายว่าหากหนังเป็นเรท R ไม่ใช่ PG-13 มันบางครั้งอาจจะยกฐานะอะไรหลายๆอย่างสำหรับการเล่าได้เพิ่มมากขึ้นแน่นอน