เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง หนังใหม่ พากย์ไทย: ค้นหาและภาพรวม

เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง รีวิวหนัง Troll โทรลล์ อสูรกายยักษ์จากดินแดนสแกนดิเนเวีย ดูแลตัวไว้ให้ดี บางครั้งบางคราวเทือกเขาที่คุณมองเห็นอยู่ด้านหน้ามันบางครั้งก็อาจจะเป็นอสูรกายที่นอนหลับอยู่เป็นพันปีแล้วก็พร้อมจะยืนขึ้นมาก่อกวนเมืองของคุณเมื่อใดก็ได้ หนังหายนะฟอร์มใหญ่จากดินแดนสแกนดิเนเวียที่แฟนหนังเผ้าคอยตั้งแต่เริ่มโปรเจคอย่างยิ่งจริงๆ Troll โทรลล์ หนังอสูรกายยักษ์สุดจินตนาการที่ประสมประสานกับตำนานปรำปราเขตแดน ที่น่าเร้าใจ Troll เกิดเรื่องราวที่พาพวกเราลึกเข้าไปในเทือกเขาโดฟเรอของประเทศนอร์เวย์ จากงานสร้างรางรถไฟที่จู่ๆได้มีบางอย่างขนาดมโหฬารตื่นภายหลังจากถูกจองจำมานานนับพันปี มันพร้อมก่อกวนรวมทั้งพังทลายทั้งหมดทุกอย่างที่ขวางทางลุกลามไปถึงเขตเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ มีเพียงแค่ นูร่า ครั้งเดอมันน์ นักค้นคว้าบรรพชีวินวิทยา รวมทั้งบิดาของคุณที่รู้เรื่องแล้วก็เป็นความหวังเดียวที่จะสกัดหายนะที่จะเกิดขึ้น ด้วยเหตุว่านี่มันเป็นสิ่งที่ใครๆก็รู้สึกว่ามีอยู่เพียงแค่ในนิทานพื้นบ้านของประเทศนอร์เวย์แค่นั้น

หนัง The Lair หรือชื่อไทยว่า กินล้างเมืองนรก เคต สินแคลร์ ผู้เขียนทัพอากาศได้ถูกเล่นงานในอัฟกานิสถาน คุณก็เลยจำเป็นต้องเข้าไปลี้ภัยที่บังเกอร์ใต้ดินที่ถูกทิ้งร้างเอาไว้ ก่อนที่จะศึกษาค้นพบว่าที่โน่นมีการซุกซ่อนอาวุธเชื้อโรคที่มนุษย์ผลิตขึ้นเอาไว้ รวมทั้งมันได้กระทำปลุกสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งมนุษย์ดาวอื่นขึ้นมา

เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง The Lair – สวาปามล้างแดนนรก สำเร็จงานาการควบคุมของ Neil Marshall

ที่เคยฝากผลงานไว้เยอะแยะในแวดวง อีกทั้งซีรีส์ Game of Thrones, ซีรีส์ Constantine, ซีรีส์ Hannibal, ซีรีส์ West World ส่วนหนังก่อนหน้าที่ผ่านมาหมาดๆก็ Hellboy (2019) รวมทั้ง The Reckoning (2020) ที่กระแสวิภาควิจารณ์ทั้งคู่เรื่องค่อนไปทางห่วยแตกอย่างยิ่งจริงๆ รวมทั้งนี่เป็นผลงานการควบคุมปัจจุบันของเขา เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

ตัวหนังบอกเล่าเรื่องราวถึงนักบินหญิงที่ถูกศัตรูยิงตกท่ามกลางทะเลทราย ทำให้คุณจำเป็นต้องหนีเอาชีวิตรอดอย่างเอาจริงเอาจัง จนได้บังเอิญเข้าไปหลบในบังเกอร์ของพวกรัสเซีย แล้วก็ตรงนั้นทำให้คุณได้เจอหน้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ไร้มนุษยธรรมแล้วก็สุดแสนอันตราย ถึงแม้คุณจะหนีเอาชีวิตรอดออกมาได้ แต่ว่าโน่นเป็นหายนะที่กำลังจะกำเนิดกับคุณแล้วก็ผองเพื่อนพ้อง

หนังประเด็นนี้ให้ความรู้ความเข้าใจสึกราวกับเป็นหนังทุนต่ำเกรดบี ที่เช่าตามร้านค้าเช่าม้วนวิดีโอสมัยเก่า เรื่องราวเชยๆมิได้มีอะไรสะดุดตา คาดคะเนได้ง่าย ตามหนทางหนังอสูรกายทั่วๆไป CG ก็อยู่ในระดับกลางหลายฉากก็นับว่าดี หลายฉากก็ไม่เนียนเอาซะเลย หนังเต็มไปด้วยรอยแผลแล้วก็ช่องโหว่มาก เต็มไปด้วยความไม่มีเหตุผลในหลายจุด ฉากแอ็คชันก็มิได้ตื่นเต้น ไม่สนุก หรือมีอะไรหวือหวาสักเท่าไหร่ อารมณ์เสมือนหนังเกรดบีจริงๆแถมยังมีความ jump ไม่ตลอดของฉากอีกบ่อยครั้งด้วย การลำดับเรื่องก็ไม่ไหลลื่น สักครู่แปลงสถานที่ไปๆมาๆแบบถี่เหลือเกิน แม้ว่าสถานะการณ์ก็ยังเป็นเรื่องเดียวกัน มันมองย่ำคงที่เรื่องราวไม่ไปด้านหน้าเยอะแค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องบท มีเรื่องที่น่าสงสัยเยอะมากหลายจุดที่มิได้รับคำตอบ การเกลี่ยบทแล้วก็การตัดบทนักแสดง บางฉากแบบต้องการจะแผดเสียงถามมากมายว่า “อะไรของมึ*” ทำเป็นไม่ค่อยดีเลยสักหน่อย โดยยิ่งไปกว่านั้นช่วงท้ายที่โคตรไม่มีเหตุผลสำหรับการตกลงใจแต่ละผู้แสดง

อย่างที่บอกนั่นแหละว่าหนังประเด็นนี้มันให้อารมณ์หนังที่เช่ามาดูตามจากร้านค้าวิดีโอ มันเป็นหนังที่เอาไปเปิดนั่งรับประทานป๊อปคอร์นพร้อมคุยกับกรุ๊ปสหาย มองไปได้เรื่อยมิได้มีอะไรสะดุดตาน่าจำ แต่ว่าก็มิได้น่าระอาชักชวนหาว มันยังพอสมควรไปได้เพลิดเพลินๆ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

หนัง Violent Night หรือชื่อไทยว่า คืนเดือด เมื่อกรุ๊ปทหารรับจ้างได้รับงานมาเพื่อจู่โจมวัตถุประสงค์เป็นเชื้อสายคนรวยที่กำลังฉลองในตอนเทศกาล งานนี้ถึงเวลาของ ซานต้าคลอส ที่จะจะต้องออกโรงบู๊สำหรับเพื่อการกู้เหตุการณ์ ที่จะสามารถช่วยคุ้มครองโลกรวมทั้งวันคริสต์มาส

ตั้งแต่มองเห็นโปสเตอร์ ก็คิดได้เลยว่าหนังมันจะออกมาคืออะไร จนถึงทำให้ต้องการมองขึ้นมาแล้วก็คิดไว้ว่าหนังมันจะรังสฤษฏ์อะไรต่างๆออกมาได้ขนาดไหน ผลเป็น…หรรษาใช่เล่น

Violent Night – คืนเดือด ได้จับเอาการราวของ ซานตาคลอส คุณลุงใจดีคนที่รอแจกของขวัญให้เด็กดีในวันคริสมาสต์ มาเปลี่ยนแปลงลุค เปลี่ยนเป็นคุณลุงที่เริ่มเอือมระอากับการแจกของขวัญ นั่งกระดกสุราที่บาร์ ขึ้นเกวียนพร้อมดื่มเบียร์สดและก็กระทำตัวอัปมงคลเยี่ยวใส่ผู้คนระดับล่าง แม้กระนั้นเขาก็ยังไม่ทอดทิ้งหน้าที่ กระทั่งบังเอิญมาบ้านมหาคนมั่งคั่งข้างหลังนึง ที่กำลังกำเนิดเป็นเรื่องราวกลุ่มขโมยชิงทรัพย์บ้าน ด้วยจิตวิญญาณที่วันคริสมาสต์รวมทั้งเด็กน้อยตาดำๆคุณลุงซานต้าก็เลยจำเป็นต้องออกป้องกันคืนคริสมาสต์ ไล่หวดเด็กซุกซนจนถึงละเลงด้วยเลือด

ตัวหนังเปิดกว้างมากมาย มีอะไรให้เล่นมากมายเยอะมากไปหมด แต่ว่าแก่นสำคัญๆ

เป็นการให้คุณลุงซานต้าไปซัดพวกคนหยาบช้า เนื่องจากว่าหนังได้เรท R ทำให้ฉากแอ็คชันหลายฉากก็โหดเหี้ยมจริงๆ และไม่เหมาะสมกับเด็กเลย พวกเราจะได้มองเห็นซานต้าแงะกลวิธีมาจัดแจงพวกกลุ่มโจร ที่บางอันก็เฉยๆบางอันนี่ก็ครีเอทและก็ชั่วร้ายสุดๆแต่ว่าแต่กระนั้น ส่วนตัวคิดว่าฉากแอ็คชันในประเด็นนี้ปกติมากมาย ด้วยการออกแบบ ด้วยมุมกล้องถ่ายภาพ มันมิได้รู้สึกตื่นเต้นหรือสนุกอะไรขนาดนั้น มันเป็นฉากแอ็คชันที่เฉยๆไปเสียหมด แต่ว่าอย่างที่บอกไปว่า มันก็จะมีบางจุด หรือท่า Finisher บางอันที่โหดเหี้ยมแล้วก็ประดิษฐ์จริงๆ

หนังคงจะตั้งอกตั้งใจ เอาแรงดลบันดาลมาจากหนังอย่าง Die Hard รวมทั้ง Home Alone เพราะว่านอกเหนือจากจะกล่าวถึงแล้ว ตัวหนังก็เอามาใส่กันแบบให้มองเห็นๆไปเลย เป็นภาพรวมทั้งยังเรื่องมันก็ราวกับ Die Hard ที่มีซานต้า เป็น Bruce Willis รวมทั้งความเป็น Home Alone ด้ามจับมาใส่อีกทั้งฉากแบบตั้งมั่นสุดๆแต่ว่าเป็นเวอร์ชันที่ชั่วร้ายกว่า ซึ่งฉาก Home Alone ในประเด็นนี้เปลี่ยนเป็นฉากที่ถูกใจมากยิ่งกว่าฉากแอ็คชันอีกทั้งเรื่องเสียอีก เพราะว่ามันอีกทั้งชั่วร้ายแล้วก็ฮาไปพร้อมเพียงกัน แม้กระนั้นโชคร้ายที่มันเป็นเพียงแค่ฉากสั้นๆเพียงแค่นั้น

หากแม้หนังจะขายความไร้มนุษยธรรมรวมทั้งความฮา หนังก็ยังไม่ลืมเลือนความเป็นหนังวันคริสต์มาส เนื่องจากมันยังมีหัวข้อครอบครัว, ความเชื่อถือวันคริสต์มาส, ความรัก แม้กระนั้นหลักสำคัญพวกนี้มันดันบางเบาเสียอย่างมาก มิได้มีน้ำหนักมากแค่ไหน เล่นง่าย เพลเซฟ มิได้ซึ้งประทับใจหรือให้ข้อคิดเตือนใจมากมายซักเท่าไหร่ แถมมันยังเปลี่ยนเป็นมาขัดความลื่นไถลไหลของหนังอีกกระทั่งทำให้เสียอารมณ์อีกต่างหาก ทั้งยังใจความสำคัญบางสิ่งบางอย่างในเรื่องก็ยังมีช่องโหว่อยู่มากมาย ไม่ว่าจะเกิดเรื่องแหล่งที่มาของครอบครัวตัวนำ และก็ยังรวมทั้งเรื่องของตัวซานต้าเองก็ตาม ที่สำคัญตอนสุดท้ายนี่จบแบบผูกมือต่อย หาทางออก หาทางลงให้เรื่องราวง่ายสุดๆอย่างมาก โดยบอกเหตุผลมันว่า “เวทมนต์วันคริสต์มาสอย่างไรล่ะ”

หนัง Black Panther Wakanda Forever หรือชื่อไทยว่า กางล็ค แพนคุณร์ วาคานด้าต้องก้าวหน้า ภายหลังที่จบเรื่องราวมหากาพย์ที่ดำเนินมากมายว่า 10 ปีไปแล้ว เวลานี้ MCU เฟสที่ 4 กำลังเดินหน้าไปในแนวทางใหม่ หนึ่งในรูปภาพยนตร์ที่กำลังอยู๋ในตอนถ่ายทำอยู่ในช่วงเวลานี้ก็คือ Black Panther: Wakanda Forever การกลับมาของดินแดนที่กบดานมายาวนาน ดินแดนที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ กับความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่ดินดินแดนนี้จำเป็นต้องพบเจอ และก็ปัจจุบันในเวลานี้พวกเขาได้ดาราหนังคนใหม่เข้ามาเสริมกองทัพแล้ว ราชินีรามอนด้า (แองเจลา บาสเซตต์) ยกรี(เลทิเทีย ไรท์) เอ็มบาคู(วินสตัน ดุ๊ก) โอวัวเย(ดาไน ฉันริรา) แล้วก็ โดรา ไม่ลาเจ (รวมถึง ฟลอเรนซ์ ค้างซัมบา) จำเป็นที่จะต้องร่วมต่อสู้เพื่อคุ้มครองปกป้องประเทศของพวกเขาจากการคั่นแซงทางอำนาจข้างหลังการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์คราวชัลล่าในขณะที่ชาววาคานด้าอุตสาหะอย่างมากเพื่อจะก้าวถัดไป เหล่าวีรบุรุษก็เลยจำต้องร่วมมือกัน ด้วยการช่วยเหลือของวอร์ด็อกท้องนาเคีย (ลูพีตา ญองอ) และก็ เอเวอเร็ตต์ รอคอยสส์ (มาร์ติน ฟรีแมน) สำหรับการสร้างทางใหม่ให้กับวานคานด้า ขอชี้แนะ เตนอช เวร์ตา มารับบทเป็นนามอร์ กษัตริย์ที่อาณาจักรลับใต้ทะเล ภาพยนตร์ประเด็นนี้ยังมี โดมินิก ธอร์น มีชาเอลา วัวเอล มาเบล คาดีน่า และก็ อเล็กซ์ ลิวานัลลีร่วมแสดงอีกด้วย “กางล็ค แพนคุณร์: วอนคานด้าควรรุ่งโรจน์” ดูแลโดย ไรอัน คูสหายร์ แล้วก็อำนวยการสร้างโดย เควิน ไฟกี และก็ เนต มัวร์ เข้าฉายในไทย 9 พ.ย. 2565

การตายของ Chadwick Boseman ต่างสร้างความเศร้าโศกเศร้าใจให้แก่แฟนๆ MCU ไปทั้งโลก แล้วก็ถือได้ว่าเป็นการซวดเซแนวทางของผู้แสดง Black Panther อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่ๆว่าหนทางในภาค 2 จำต้องไม่ถูกไปจากที่คิดแผนจริงแท้แน่นอน รวมทั้งทั้งหมดทั้งปวงทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นก็ได้ถูกรังสฤษฏ์เรื่องราวออกมาเป็น Black Panther: Wakanda Forever หนังปิด Phase 4 ของ Marvel ในภาคนี้อย่างที่พวกเราได้มองเห็นกัน แล้วก็ตัวหนังก็เป็นการอุทิศให้แก่ Chadwick Boseman อย่างแท้จริง แม้กระนั้นการขาดเขาไป ทำให้ตัวหนังไม่มีสเน่ห์ไปเลย

ในภาคนี้จะเกิดเรื่องราวที่ชี้แจงถึงชาว Wakanda ที่พึ่งสูญเสียกษัตริย์อันเป็นสุดที่รักอย่าง T’Challa ไป ระหว่างที่ดินแดนกำลังคลอนแคลน เขาจำเป็นต้องประจันหน้ากับภัยครั้งใหม่จากดินแดนใต้ห้วงสมุทรที่นำโดย Namor

อย่างที่ได้กล่าวไปในย่อหน้าแรกว่าการขาด Chadwick Boseman

ไปทำให้หนังไร้ซึ่งเสน่ห์มากมายๆอย่างในภาคแรกยังมีตัว Chadwick เอง รวมทั้ง Michael B. Jordan ที่เท่มากๆเพียงพอมาในภาคนี้แม้นักแสดงอื่นๆจะยังเป็นตัวละครที่พวกเราคุ้นตาค่าตาและก็รู้จักมาก่อนก็ตาม มันก็ไม่มีผู้แสดงใดมีเสน่ห์มากพอที่จะเย้ายวนใจความน่าดึงดูดใจให้กับตัวหนังได้เลย มิได้รู้สึกผูกพันกระทั่งต้องการเอาใจช่วยผู้แสดงไหนเลย

ไม่ใช่ว่าแสดงไม่ดีนะ ผู้แสดงอย่าง Okoye (Danai Gurira) จัดว่าเด่นและก็ทำเป็นดีเลิศๆหรืออย่างราชินี Ramonda (Angela Bassett) นี่เล่นได้ทรงประสิทธิภาพ เป็นทั้งสองทำเป็นดีเลยจริงๆดีแบบกระโดดมาจากผู้แสดงอื่นเลย ต้องการให้สองนักแสดงนี้มีบทมากยิ่งกว่านี้ซะอีก ส่วนตัวละครอื่นเฉยๆมากมาย ทั้งยัง Shuri (Letitia Wright) ที่ถึงแม้ว่าจะเป็นตัวเอก

แม้กระนั้นก็ไร้ซึ่งเสน่ห์มากมายๆหรือจะเป็น Nakia (Lupita Nyong’o) ที่มิได้มีอะไรเด่น รวมทั้งการปรากฏตัวของ Riri (Dominique Thorne) ก็เป็นการเปิดตัวที่ไม่หวือหวามิได้น่าติดตามต่อ และก็ยังรวมทั้ง Namor (Tenoch Huerta) ที่การแสดงคงจะไม่ใช่ปัญหา แม้กระนั้นสิ่งที่เป็นปัญหานั้นก็คือบทเนี่ยล่ะราวกับจะมาดี ปูมาซะชั่วร้าย ซะยิ่งใหญ่ บ้านผลบอล แม้กระนั้นก็แปลงเป็นตัวร้ายพิการๆตัวหนึ่ง

เหตุผลและก็แรงบันดาลใจมันไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะสร้างจุด conflict ได้ขนาดนั้น พอใช้ละครอื่นๆมันไม่นำพา ซีนด้านหลังเรื่องที่มันควร Epic กลับราบเรียบ แปลงเป็นซีนปกติไปเลย และยังรวมไปถึงฉากสู้ต่างๆก็เฉยๆเหมือนกัน

และก็การขาด Chadwick Boseman ก็มีผลถึงเรื่องบทด้วย หากแม้จะหาทางออกกับนักแสดงนี้ได้มีเหตุผล แต่ว่าก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้จริงๆว่าประเด็นนี้ทำให้การเดินเรื่องและก็บทมันไม่สุดสักทางจริงๆมันยังสะเปะ สะปะ ที่เพียงพอจะเอาชีวิตรอดมาได้เพียงแค่นั้น รู้เรื่องว่าหนังตั้งมั่นทำมาเป็นการยกย่อง

ให้เกียรติ และก็คิดถึง Chadwick Boseman ในบท T’Challa หรือ Black Panther แต่ว่าหนังพากเพียรบิ้วให้ดราม่าตลอดทั้งเรื่องจนมากเกินความจำเป็น เป็นดราม่าเพียงพอมีมันก็ดีแล้ว เป็นหนังมันกำลังก้าวไปดำเนินต่อรวมทั้งหลายฉากมันพอดีเลย

แต่ว่าก็ควรจะมีบทสำหรับพูดมาสารธคุณยายความซึมเศร้า เรื่องวิญญาณ หัวข้อการจากไป เรื่องบรรพบุรุษ เป็นมีบ้างจะไม่แปลก จริงๆทีแรกๆกับช่วงท้ายก็พอแล้ว แม้กระนั้นนี่มันบ่อยเกินไปมั้ย การมีซีนอารมณ์บ่อยเกินไป มันเสียเวล่ำเวลาไปๆมาๆก ไม่จบสิ้นเกินจำเป็น รวมๆเป็นบทในภาคนี้มันเวิ่นเว้อมาก แม้กระนั้นบางจุดก็รีบเหลือเกิน