เธอกับฉันกับฉัน

เธอกับฉันกับฉัน

เธอกับฉันกับฉัน

เธอกับฉันกับฉัน ส่วนที่น่าเสียดายที่สุดก็เห็นจะเป็นบรรยากาศย้อนยุค Y2K ที่คนทำหนังไม่สามารถนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเลย กิมมิคของยุคก็แค่หยิบๆ มาใส่เข้าไปให้มันดูเป็น Y2K แต่มันยังไม่พออ่ะ ด้วยพลอตเรื่องและการเดินเรื่องแบบนี้ จริงๆ แล้วจะให้พื้นหลังเป็นยุคไหนก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อหนังเลย

อีกจุดหนึ่งที่ถือว่าทำได้ต่ำกว่ามาตรฐานหนังของ GDH ไปพอสมควรเลยก็คือเรื่องของเพลงประกอบในแต่ละซีนของหนัง ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งหนึ่งของทีมงาน GDH เลยก็ว่าได้ (จริงๆ ก็ตั้งแต่สมัยเป็น GTH แล้วแหละ) เพราะที่ผ่านมางานของ GDH/GTH จะเด่นในเรื่องการเลือกเพลงประกอบมาใส่ในหนังได้เป็นอย่างดี ต่างช่วยเสริมให้ทั้งเพลงและซีนนั้นๆ มีความน่าสนใจและน่าประทับใจมากขึ้น
แต่สำหรับเรื่องนี้แม้จะได้เพลงดังของ Triumphs Kingdoms อย่าง กันและกัน และ เธอกับฉันกับฉัน ผ้าเช็ดหน้า มาใช้งาน แต่จังหวะในการหยิบไปใส่ในแต่ละฉาก กลับไม่ได้ช่วยให้มีความน่าสนใจอะไรขึ้นมาเลย
แอบเสียดายวัตถุดิบดีๆ ที่มีอยู่มากมายเต็มไปหมด แต่กลับไม่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ภาระจึงไปตกที่ น้องใบปอ ที่ต้องกลายเป็นเดอะแบกของหนังไปซะงั้น

ใครที่เคยคิดถึงหนัง Feel Good ดีต่อใจสไตล์ค่ายจีดีเอช (หรือค่ายก่อนหน้านี้) การรอคอยกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว กับผลงานใหม่อย่าง  ที่จะชวนให้ผู้ชมหวนระทึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก และรักแรกในวัยรุ่นของเราอีกครั้ง แต่ความแตกต่างของโปรเจกต์นี้ คือการ ใช้ตัวละครนำเป็นฝาแฝด และพาผู้ชมเข้าสู่โลกของแฝด กับรายละเอียดหลายแง่มุมที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน ผ่านสองผู้กำกับแฝดหญิงอย่าง วรรณแวว และแวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ที่เคยจับงานเบื้องหลังในหลังคาค่ายนี้อยู่นาน ก่อนที่จะได้รับโอกาสในการกำกับหนังใหญ่เรื่องแรก ผ่านการดูแลของ โต้ง บรรจง ผู้กำกับระดับพันล้าน ที่มีผลงานการันตีแน่นเครดิต

‘เธอกับฉันกับฉัน’ พาผู้ชมย้อนกลับไปในยุคสมัย Y2K เธอกับฉันกับฉันรีวิว หนังใหม่ GDH 'เธอกับฉันกับฉัน' รักครั้งแรกของฝาแฝด - เผชิญปัญหา

(ซึ่งอยู่ดีๆก็กลับมาเป็นเทรนด์ ณ เวลานี้) ในปี 1999 ช่วงเวลาที่คนทั้งโลกกำลังหวาดวิตกว่า การก้าวเข้าสู่ยุค 2000 จะเกิดปัญหาด้านคอมพิวเตอร์ ทำให้เกิดภัยพิบัติมากมาย ซึ่งตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุส ว่าโลกอาจถึงจุดสิ้นสุด โดยสองตัวละครหลักของเรื่อง คือ พี่น้องฝาแฝด ยู และ มี (รับบทโดย ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์ ซึ่งแสดงคนเดียวเป็นสองบทบาทเลย) ทั้งคู่เติบโตมาด้วยกัน แชร์หลายๆอย่างด้วยกัน และเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันมาตลอดชีวิต จนกระทั่งพวกเธอได้พบกับ หมาก (รับบทโดย อันโทนี่ บุยเซอเรท์) หนุ่มหล่อลูกครึ่งเพื่อนร่วมโรงเรียน ที่เจอกันตั้งแต่ตอนสอบซ่อม ไปจนถึงช่วงปิดเทอมซัมเมอร์ที่นครพนม ไม่นานเรื่องราวความรักก็เริ่มเข้ามาในหัวใจของคนทั้งสาม นี่คือรักแรกของสองแฝด กับ หนึ่งหนุ่ม ที่ความสัมพันธ์ค่อยๆ ยุ่งเหยิงและนำไปสู่ การตัดสินใจที่พวกเธอไม่เคยเผชิญมาก่อน

‘เธอกับฉันกับฉัน’ คือหนังที่ค่อยๆพาผู้ชมเข้าสู่โลกของฝาแฝด

ที่ทั้งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป หลายอย่างอาจจะเป็นมุมอินไซด์ที่คนทั่วไปอาจไม่ได้รู้มาก่อน ทำให้เกิิดพล็อตที่ทั้งสนุกสนานและยุ่งเหยิงได้มากมาย จากการที่เธอทั้งสองหน้าเหมือนกัน แทบจะเป็นคนๆเดียวกัน และในขณะเดียวกัน มันก็ถูกเล่าผ่านโครงเรื่องในลักษณะ รักแรก ผสมกับ รักสามเส้า ทำให้นอกจากมุมดีต่อใจแล้ว ผู้ชมสามารถคาดเดาได้เลยว่า จะได้เจอมุมบีบหัวใจอย่างแน่นอน ทำให้หนังนอกจากจะน่าติดตามในปมเรื่องแฝดแล้ว ยังน่าจะทำให้ผู้ชมอินในประเด็นรักแรก หรือรักในวัยเรียนได้อีกด้วย

สิ่งที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับ ยิ่งขึ้นไปอีก คือการที่หนังเลือกเล่าในบรรยากาศปลายยุค 90s ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยุคที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน กำลังเข้าสู่ยุคออนไลน์ หนังสนุกกับการหยิบ Pop Culture ในยุคนั้นมาเล่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ฉายในปีนั้น เพลงดังที่ถูกปล่อยในช่วงนั้น ร้านอาหารที่เป็นที่นิยมของคนยุคนั้น ไปจนถึงไอเท็มบางอย่างที่บอกยุคสมัยได้อย่างดี สำหรับผู้ชมที่สมัยหนัง แฟนฉัน เข้าฉายแล้วอาจจะเกิดไม่ทัน

ไม่ได้อินกับเรื่องแวดล้อมในหนัง อาจจะมาอินกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก สำหรับใครที่อายุราว 30-40 ปี น่าจะเป็นช่วงที่กำลังเติบโต กำลังเสพสื่อ กำลังใช้ชีวิตผ่านช่วงเวลานั้น หนังทำให้ผู้ชมระลึกถึงความทรงจำในอดีตอันหอมหวานได้อย่างดีอีกด้วย

แต่สิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุด ต้องยกให้กับงานสร้าง ที่อาจกล่าวได้ว่า นี่คืองานที่ไม่ง่ายเลยทั้งสำหรับทีมงานและนักแสดง เพราะเมื่อ  ใช้นักแสดงเพียงคนเดียว เล่นเป็นฝาแฝด ดังนั้นเทคนิคการถ่ายทำหลายๆอย่างจึงถูกหยิบนำมาใช้ ส่วนที่ง่ายหน่อยน่าจะเป็นซีนที่ถ่ายผ่านหลัก ทำให้เห็นตัวละครเพียงคนเดียว แต่สำหรับฉากที่ต้องเห็นทั้งสอง ทั้งถ่ายทำและตัดต่อออกมาได้เนี้ยบมากๆ จนแทบจะไม่มีจุดไหนรู้สึกสะดุดเลย และที่สำคัญต้องชื่นชมน้องใบปออย่างยิ่ง

ที่สร้างคาแรคเตอร์ ยูกับมี ออกมาแตกต่างได้อย่างชัดเจน ในช่วงแรกอาจจะต้องตั้งใจดูเพื่อจับความแตกต่างพอสมควร แต่เมื่อหนังดำเนินไป ไม่ใช่แค่ไฝที่ต่าง แต่วิธีการพูด ลักษณะของตัวละครก็สามารถแยกได้ชัด ซึ่งเป็นงานที่ไม่ง่ายเลยสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งต้องปรบมือชื่นชมในจุดนี้

โดยรวม  ถือเป็นหนังไทยที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดอีกเรื่อง ด้วยคุณภาพที่กล่าวได้ว่าตามมาตรฐานค่ายจีดีเอช ทั้งในแง่บท งานสร้าง และองค์ประกอบต่างๆ ใครที่เคยคิดถึงหนังอารมณ์ดี หนังแนว Coming-of-Age ที่ทางค่ายเองก็ไม่ได้สร้างหนังแนวนี้มาพักใหญ่ นี่คือการกลับมาที่น่าพอใจ และเชื่อว่า หนังจะสามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมหลายต่อหลายคนได้อย่างแน่นอน

ของ ผู้กำกับพี่น้องฝาแฝด วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ถือเป็นหนังไทยที่ดีเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยหนังไทย แต่ก็เป็นแค่หนัง GDH เรื่องหนึ่ง ที่พอดูได้ฆ่าเวลาก็เท่านั้นและอาจไม่จำเป็นต้องรีบไปดูในโรง

ข้อดีของหนังคือ มู้ดแอนด์โทนดี ภาพสวยถูกใจวัยรุ่น เรื่องราวก็ย้อนไปยุคปี 1999รีวิว หนังใหม่ GDH 'เธอกับฉันกับฉัน' รักครั้งแรกของฝาแฝด - เผชิญปัญหา

ซึ่งเป็นปีที่กำลังย่างเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ ปีที่คนทั่วโลกจับตาเรื่องโลกแตกและประเด็น Y2K ซึ่งจริง ๆ ก็เป็นประเด็นที่อยู่ใน Pop Culture ทั้งไทย และเทศ มาหลายต่อหลายเรื่องแล้ว แต่เรื่องนี้มันพอดีที่หนังบังเอิญเข้าโรงประจวบเหมาะกับช่วงที่เทรนด์แฟชั่น Y2K กำลังกลับมาอินเทรนด์พอดีด้วย มันเลยมีกลิ่นอายที่ให้คนกลุ่มหนึ่งคิดถึงวันวาน มี easter eggs มากมายให้คนดูกลุ่มนั้นรู้สึกมีส่วนร่วม มันเลยเป็นหนัง feel good สไตล์ถนัดของค่าย GDH

และสิ่งที่ดีที่สุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เสน่ห์และแววดาวของดาวดวงใหม่ “น้องใบปอ” ที่แสดงเป็นแฝด “ยู & มี” ได้เนียนกริบจนนึกว่าเป็นคนละคนแสดงจริง ๆ และน้องก็น่ารัก (ขัดใจแค่ช่วงที่เป็นผมหน้าม้า แค่นั้นเลย) แววดีมีอนาคต อนาคตเป็น “ใบเฟิร์น 2” ได้ (แต่อย่าเป็นจะดีกว่า เพราะเป็นตัวเองย่อมดีที่สุด) ส่วน “น้องแอนโทนี” ก็น่ารักและเป็นธรรมชาติ ถ้าตัวจริงเป็นคนเข้าถึงง่ายและเป็นมิตรแบบตัวละคร “หมาก” ในเรื่อง น้องก็อนาคตไกลอีกคนได้ไม่ยากเช่นกัน

แต่สุดท้ายแล้ว You & Me & Me: เธอกับฉันกับฉัน

ก็เป็นหนังไทยเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้มีความน่าจดจำหรือความจำเป็นต้องดูซ้ำ (หรืออาจไม่จำเป็นต้องดูโรงเลยก็ได้ อย่างที่บอก) เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือมีคุณค่ามากมายอะไรนอกจากจะมาชวนระลึกความหลังในวัยเยาว์ รักครั้งแรกของวัยรุ่นวุ่นรัก ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ฯลฯ

พาร์ทความรักก็เดาเรื่องได้หมดตั้งแต่ 5 นาทีแรกว่าพระเอกรักใคร แล้วต่อไปความวุ่นวายมันจะมาในรูปแบบไหน (ยังไม่นับที่ตัวอย่างหนังก็เล่าไปเกือบหมดแล้ว) แล้วความรักแบบเด็ก ๆ มันมักเต็มไปด้วยความน่าลำไยอยู่แล้ว (เช่น มึงจะทำแบบนั้นเพื่ออออ? อีเด็กง่าวววว) มันจึงไม่ได้ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราอยากเอาใจช่วยมากเท่าไหร่นัก

พาร์ทครอบครัว มีการเล่นประเด็นการหย่าร้างหรือการแยกทาง ซึ่งการแยกทางน่าจะเป็นธีมหลักของหนังได้เลย อย่างที่หนังก็แฝงมามากมาย ทั้งฉากแบ่งซาลาเปา ฉากแบ่งไอติมยักษ์คู่ ฯลฯ จะเห็นได้ว่า ถ้าตั้งใจจะขยี้ มันขยี้ได้อีก แต่หนังไม่ขยี้ มันเลยไปไม่สุด เพราะหนังไปเน้นขายพาร์ทความรักสามเส้าของสองพี่น้องฝาแฝดที่น่าลำไย (ถึงแม้น้องใบปอกับน้องแอนโทนีจะน่าฮักอีหลีก็ตาม)

อาจใจร้ายไปหน่อยถ้าจะเอาหนังไทยไปเปรียบเทียบกับหนังเข้าชิงออสการ์ แต่เอาเป็นว่า เราแค่อยากพูดถึงนิดนึง เพราะเราเพิ่งได้ดูหนังว่าที่ออสการ์เรื่อง “The Fabelmans” มาในเวลาไล่ ๆ กันมาก แล้ว Steven Spielberg พ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด ได้เล่าประเด็นครอบครัวแยกทางได้อย่างยอดเยี่ยมตราตรึง และเล่าเรื่องของชีวิตในวัยเยาว์ของตัวผู้กำกับเองเช่นกัน ซึ่งเราชอบมาก ๆ แบบขึ้นหิ้งไปแล้ว จึงทำให้สตอรี่ของ You & Me & Me: ในส่วนของครอบครัว มันกลายเป็นงานคนเขียนบทมือสมัครเล่นไปโดยปริยาย

thinng

เธอกับฉันกับฉัน

เธอกับฉันกับฉัน

เธอกับฉันกับฉัน

เธอกับฉันกับฉัน ภาพยนตร์ใหม่แกะกล่องจาก GDH “เธอกับฉันกับฉัน” (you and me and me) กำกับและเขียนบทโดย “วรรณแวว – แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์” และโปรดิวเซอร์โดย “โต้ง บรรจง ปิสัญธนะกูล” เรื่องนี้พามา “หมุนเข็มนาฬิกาย้อนกลับไปในปี ค.ศ. 1999 (พ.ศ. 2542) ยุคที่คนทั่วโลกต่างพูดถึงปัญหา Y2K และข่าวลือว่าโลกอาจจะแตกในวันสิ้นปี 1999 ผ่านตัวเอกของเรื่อง “ยู และ มี” (แสดงโดย ใบปอ ธิติยา) ฝาแฝดสาววัย ม.ต้น ที่สนิทกันมาก แชร์ทุกอย่างร่วมกัน

ทั้งคู่กังวลอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อ “หมาก” (โทนี่ อันโทนี่) เธอกับฉันกับฉัน เด็กหนุ่มลูกครึ่งอีกสานที่เข้ามาในชีวิตของพวกเธอ และนี่คือจุดเริ่มต้นของการสัมผัสกับ “รักครั้งแรก ที่ไม่อาจแชร์ให้กันได้”

หนังเรื่องแรกๆที่เล่าชีวิตจริงๆของฝาแฝด : ปูทางตั้งแต่ตั้วอย่างยังต้นเรื่องของภาพยนตร์ การเล่าเรื่องราวชีวิต 2 สาวสวยฝาแฝดจริงๆผ่านตัวละคร “ยู และ มี” ที่แสดงโดย ใบปอ ต้องยอมรับว่า เหมือนกับแฝดจริงๆ จนนึกว่า เล่นโดยฝาแฝด ด้วยการถ่ายทอดตัวละครของ ใบปอ ธิติยา ทำให้คนดูแยกออกจริงๆว่า ตอนนี้กำลังเป็นใคร แต่บางครั้งก็แอบเหมือนกัน จนรู้สึกแสดงนิสัยสลับกันบ้าง

จีดีเอช' เปิดตัว 'เธอกับฉันกับฉัน'

บทภาพยนตร์ – เนื้อเรื่องสมจริงมาก : แอบนึกตลอดว่า นี่คือการเล่าชีวิคของ 2 สาวฝาแฝดผู้กำกับหรือเปล่านะ เชื่อว่า หลายคนๆที่ดูคงสัมผัสได้ถึงความรัก การแชร์กันและกันของฝาแฝด จนต้องแอบมีน้ำตาร่วงบ้าง และที่สำคัญคือความแตกต่างทางด้านนิสัยของคนสองคน สะท้อนออกมาได้สมจริงสุดๆ ที่สำคัญคือ ฉากที่มีประจำเดือนครั้งแรก สะท้อนรีแอคชั่นของการเติบโตของเด็กสาวได้อย่างชัดเจน

แม้แต่รายละเอียดเล็กๆน้อยที่กลายเป็นจุดที่ช่วยประกายเรื่อง อาทิ เพลงผ้าเช็ดหน้า ของใช้สมัย Y2K ที่ไล่เรียงตั้งแต่การเล่นทามาก็อจจิ ยาวไปถึงการเริ่มมีโทรศัพท์มือถือเครื่องแรก และสถานที่ที่เลือกใช้ถ่ายทำ จ.นครพนม บรรยากาศที่หยุดเวลาไว้ในยุค 90

พลังพิเศษของฝาแฝดและพี่น้อง

อันนี้เป็นอีกซีนที่รู้สึกชอบ เพราะหลายคนที่มีพี่น้องน่าจะต้องเคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับตัว โดยเฉพาะกับฝาแฝด คือจะรู้สึกได้เวลาที่อีกฝ่ายกำลังรู้สึกไม่ดีหรือกำลังเกิดเหตุการณ์อันตราย มันจะเหมือนมีลางสังหรณ์บางอย่างขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ อาจเพราะผู้กำกับหนังเรื่อง You & Me & Meทั้งคุณวรรณแววและคุณแวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ก็เป็นฝาแฝดเหมือนกัน ถึงแม้นี่อาจจะไม่ใช่พลังพิเศษจริงๆ แต่เป็นความผูกพันธ์ของพี่น้องหรืออะไรทำนองนี้ แต่ก็รู้สึกชอบซีนนี้มากเลย

บทเลิฟซีนที่เหมือนจะมาผิดยุค
จุดที่รู้สึกว่าไม่ค่อยเหมาะกับเนื้อเรื่องก็คงเป็นฉากเลิฟซีนที่ดูผิดยุคอย่างบอกไม่ถูก ถ้าพูดถึงปี พ.ศ. 2542 ซึ่งก็คือเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ยังเป็นยุคที่ผู้หญิงไทยมักถูกปลูกฝังให้รักนวลสงวนตัวและยังไม่ได้เปิดกว้างหรือรับวัฒนธรรมตะวันตกมาแบบในปัจจุบัน แต่ในหนังเรื่องนี้กลับมีฉากที่ยูเสนอตัวว่าอยากจูบกับหมาก ทำให้รู้สึกว่าฉากนี้ค่อนข้างจะแปลกไปหน่อย แม้จะรู้สึกว่าซีนนี้ยังไม่ค่อยเข้ากับยุคสมัย แต่ก็เข้าใจได้ว่าเป็นหนังโรแมนติก ก็ต้องมีฉากกุ๊กกิ๊กบ้าง

You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน

เหตุการณ์ Y2K ในประวัติศาสตร์
คนที่เกิดทันยุค Y2K จะต้องรีเลทกับหลายอย่างในเรื่องนี้อย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว ทรงผม เพลง นิตยสาร โทรศัพท์บ้าน ทามาก็อต ฯลฯ รวมไปถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ที่บอกว่าโลกกำลังจะแตก โดยในเรื่องนี้จะเน้นไปที่เหตุการณ์ที่กำลังจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ช่วงปี 2000 มากกว่าเรื่องอื่น เช่น ระบบคอมพิวเตอร์ และเลขฐานสอง ส่วนตัวคิดว่าหนังพูดถึงไอเท็มในยุคนั้นน้อยไปหน่อย แต่จะเน้นไปที่เหตุการณ์คำทำนายว่าโลกจะแตกมากกว่า ก็เลยอาจทำให้คนดูรู้สึกอินน้อยลง

ความสัมพันธ์ของพี่น้องที่สมจริง
อันนี้ก็เป็นอีกจุดที่รู้สึกว่าชอบและมีความสมจริง ก็คือความสัมพันธ์ของฝาแฝดหรือพี่น้องที่อายุใกล้เคียงกัน ตั้งแต่จำความได้ก็มีอีกฝ่ายอยู่ในชีวิตมาตลอด อาจมีทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา แต่พอนึกว่าถ้าวันไหนที่ต้องใช้ชีวิตคนเดียวโดยไม่มีเค้าอยู่ ก็นึกภาพไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นยังไง ข้อดีของการมีพี่น้องคือเหมือนมีเพื่อนสนิทรู้ใจอยู่ในชีวิตตลอดเวลา แม้ว่าจะมีข้อเสียคือมีการตีกันแย่งของบ้างก็ตาม 5555

ซีนอารมณ์มีมิติแบบคนธรรมดา
บางคนอาจจะบอกว่า “มี” เห็นแก่ตัวที่บอกไปว่าคนที่ไปสอบวันนั้นคือตัวเอง ไม่ใช่ “ยู” แต่ก็เข้าใจความรู้สึกของมีนะ บทบาทของตัวละครทุกคนในเรื่องก็คือคนธรรมดาที่ย่อมมีรักโลภโกรธหลงอยู่แล้ว ทั้งรู้สึกหวงฝาแฝดของตัวเอง ทั้งอิจฉาที่ฝาแฝดมีแฟน แล้วก็เข้าใจความรู้สึกของ “ยู” ที่อยากอยู่กับหมากสองคน หรือความรู้สีกที่คิดว่าแม่รักเราไม่เท่ากับลูกอีกคน ทั้งหมดทำให้ซีนอารมณ์ต่างๆ ของตัวละครในหนัง You & Me & Me  ค่อนข้างที่จะมีมิติ ตัวละครมีความเป็นสีเทาๆ ไม่ได้ขาวหรือดำจนแบนเกินไป

ความรู้สึกโดยรวมหลังดู You & Me & Me เธอกับฉันกับฉัน (2023)

โดยรวมให้คะแนน 8.5/10 ถือเป็นหนังโรแมนติกฟีลกู๊ดที่ย่อยง่าย ไม่ต้องคิดเยอะ ไม่ต้องมีบทวิเคราะห์หรือทฤษฎีมากมายมาให้ปวดหัว สามารถดูได้เพลินๆ พล็อตเรื่องเน้นไปที่ความสัมพันธ์ของพี่น้องและครอบครัว แม้ว่าตัวโลเคชั่นจะเป็นต่างจังหวัดซะเยอะ จนอาจรู้สึกเหมือนเป็นหนังแบบ Slice of Life ธรรมดาไปบ้าง แต่ก็รู้สึกว่าน่ารักดี ได้ซึมซับภาพบรรยากาศของริมฝั่งแม่น้ำโขงของจังหวัดนครพนมแบบเต็มตาอีกด้วย โดยสามารถรับชมหนัง You & Me & Me  (2023) ได้แล้ววันนี้ทาง Netflix และสามารถรับชม Netflix ผ่านกล่อง TrueID TV ได้ด้วยนะ

ซีนสัมผัสใจ : จุดที่หลายคนชวนลุ้นคงจะเป็นเรื่องความรัก ซึ่ง “ยู” รู้อยู่แล้วว่า พระเอกชอบ “มี” แต่ด้วยความที่อาจจะไม่เคยมีใครมาชอบเอย หรือจะด้วยนิสัยที่ค่อนข้างจะเป็นคนจริงจังอยู่แล้ว พอเจอเข้าครั้งแรกก็รู้สึกอยากจะตอบรักในครั้งนี้ ส่วนทางด้าน “มี” ที่เคยเจอคนชอบมาบ่อยแล้ว แต่กับพระเอกก็ไม่สามารถบอกได้ว่า ความสัมพันธ์ที่จริงคืออะไร แต่ที่สำคัญคือ ไม่อยากเสียฝาแฝดให้ใคร และนี่คิดจุดพิสูจน์ในการเติบโตขึ้นอีกก้าวของเหล่าตัวละครจีดีเอช" เปิดตัวหนังรัก "เธอกับฉันกับฉัน" ฉาย 9 ก.พ.นี้
รีวิว หนังใหม่ GDH รักครั้งแรกของฝาแฝด – เผชิญปัญหา Y2K

ซีนที่หน่วงพอสมควร เมื่อยูตัดสินใจกลับกรุงเทพ โดยทิ้งเพียงจดหมาย และกลับเกิดเรื่องราวพีคสุดๆ ซึ่งก็ชวนลุ้นได้ทั้งสองแง่ พร้อมกับกลิ่นอายความขบขันที่ GDH มักจะแทรกให้ได้รู้สึกพีคอยู่เสมอ

ฝาแฝดมีจิตสัมผัสถึงกันจริงไหม : ในเรื่อง ยู กับ มี ได้เผยว่า ทั้งสองคนมักจะพูดขึ้นมาพร้อมกัน แต่อีกเรื่องที่ทำให้คนดูได้เห็นระหว่างทาง คือ การมีจิตสัมผัสถึงกัน เพราะทั้งยูและมี ก็ต่างรู้สึกแปร๊ปๆ ขึ้นมาในใจ ว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับอีกฝ่าย โดยที่ทั้งคู่ก็ได้แต่แอบตั้งคำถามเรื่องนี้เหมือนกัน นั่นยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่า เกิดมาเป็นแฝดกันแล้ว คงไม่มีใครรู้ดีเท่าเรา
รีวิว หนังใหม่ GDH รักครั้งแรกของฝาแฝด – เผชิญปัญหา Y2K

“ถ้าพรุ่งนี้โลกแตก เราจะทำอะไร” : ปัญหา Y2K (Year 2 kilo) หรือ ปัญหา 2000 ด้วยเส้นเรื่องที่ดำเนินอยู่ในช่วงปี 1999 ตรงกับยุคที่กำลังเกิดปัญหานี้ขึ้น สำหรับ Y2K เป็นปัญหาเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ ที่สมัยนั้นมีความเชื่อว่า หากขึ้นต้นปี ค.ศ.2000 ระบบทั่วโลกจะล่ม และผิดเพี้ยน โดยในเรื่องได้มีการกล่าวถึงเนื่องนี้ ราวกับพาย้อนไป ณ เวลานั้นจริงๆ ถ้าคนที่เกิดทันก็คงจะอินไม่ใช่น้อย แม้แต่คนที่อาจจะไม่ได้เกิดในยุคนั้น คงแบบ อ่อ มีเรื่องแบบนี้ด้วย และนี่คือที่มาจริงๆของ Y2K ในยุคนั้น
รีวิว หนังใหม่ GDH ‘รักครั้งแรกของฝาแฝด – เผชิญปัญหา Y2K

ปัญหา Y2K สอดคล้องคำทำนายนอสตราดามุส หนังสือที่ปรากฏคำทำนายที่ว่าโลกจะแตก ซึ่งเด็กในยุคนั้นคงระแวงไม่ใช่น้อย พร้อมกักตุนของเตรียมอยู่กู้โลก และคงได้แต่ตั้งคำถาม “ถ้าพรุ่งนี้โลกแตก เราจะทำอะไร” นับได้ว่า เป็นคำถามยอดฮิตในยุคนั้น

thinng