มาสไรเดอร์ ชิน

มาสไรเดอร์ ชิน

มาสไรเดอร์ ชิน

มาสไรเดอร์ ชิน จักรวาลฮีโร่ฝั่งฮอลลีวู้ดอาจกว้างใหญ่ไพศาล และเต็มไปด้วยตัวละครมากมาย หากแต่ฝั่งญี่ปุ่นเอง ก็มีจักรวาลชินของ ฮิเดอากิ อันโนะ ที่นำเอาผลงานสุดคลาสสิคของฝั่งญี่ปุ่นในแนวโทกูซัตสึ (หมายถึง ละครหรือภาพยนตร์ที่มีเทคนิคพิเศษทำมือเป็นส่วนใหญ่) มาชุบชีวิตใหม่ หลังจากก็อตซิลล่าและอุลตร้าแมน นี่ก็เป็นความพยายามครั้งล่าสุด ที่หยิบเอาอีกหนึ่งผลงานสุดคลาสสิคทางทีวีญี่ปุ่นอย่าง Shin Kamen Rider มาดัดแปลง

Shin Kamen Rider เล่าเรื่องของนักบิด ทาเคชิ ฮองโก ที่ถูกองค์กรลัทธิประหลาดอย่าง “ช็อคเกอร์” จับไปดัดแปลงตัดแต่งเข้ากับพันธุกรรมแมลง ที่ช่วยให้เปิดปราณพลังภายในแก่นกายด้วยการรับสายลม หลังได้รับการช่วยเหลือโดย รูริโกะ มิโดริคาวะ เขาและเธอ ร่วมกับ ดร.ฮิโรชิ พ่อของรูริโกะ ชิน มาสค์ไรเดอร์ จึงตัดสินใจจะกำราบองค์กรช็อคเกอร์ รวมถึงเอาชนะมนุษย์ดัดแปลงที่อยู่ภายในองค์กร ในฐานะ “มาสค์ไรเดอร์”
ถึงแม้จะใช้คำว่า “จักรวาลชิน” หากแต่สิ่งที่หนังทั้งหมดมีเหมือนกัน ก็คือคอนเซปต์ที่คลุมเท่านั้น นั่นหมายถึง การหยิบจับแก่นกลางหลักของแต่ละเรื่องมาปัดฝุ่นใหม่ และหยิบยกแก่นนั้น มาแต่งองค์ทรงเครื่องให้ร่วมสมัยขึ้น แต่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นอายที่เป็นเอกลักษณ์ในแต่ละเรื่อง

ซึ่งกับ Kamen Rider ก็เช่นกัน ตัวหนังจับเราเข้าสู่ฉากแอ็คชั่นเปิดเรื่องอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นเรื่องราวที่มาพร้อมความรุนแรงเลือดสาด ก่อนที่ตัวหนังจะพาเราไปรู้จักกับตัวเอกอย่าง ทาเคชิ ฮองโก กับภารกิจของรูริโกะ ที่หวังจะพังทลายองค์กรร้ายช็อคเกอร์

ซึ่งซีรีส์ชุด มาสค์ไรเดอร์ หรือ คาเมนไรเดอร์ จะมีตัวเอก 2 คน ซึ่งคนแรกคือ ฮอนโก ทาเคชิ นักแข่งจักรยานยนต์ ที่ถูกช็อกเกอร์จับตัวไปดัดแปลงให้กลายเป็นคาเมนไรเดอร์ เพื่อช่วยยึดครองโลกแต่ได้มีการขัดขวางของนักวิทยาศาสตร์ที่กลับใจ ทำให้ไม่ถูกล้างสมอง ฮอนโกจึงเรียนรู้การใช้พลังเพื่อปกป้องโลกจากองค์กรช็อกเกอร์ ส่วนอีกคนคือ อิจิมอนจิ ฮายาโตะ” ช่างภาพอิสระ ถูกลักพาตัวไปดัดแปลงเช่นเดียวกัน แต่ ฮอนโก ทาเคชิได้เข้าไปช่วยไว้ จึงกลายเป็น คาเมนไรเดอร์ อีกคนตัวอย่างแรกของภาพยนตร์ SHIN • KAMEN RIDER กำหนดเข้าฉาย มี.ค. 2023 -  J-HERO.COM

โซสึเกะ อิเกะมัตสึ และ มินามิ ฮามาเบะ ใน Shin Kamen Rider 2023Shin Kamen Rider ขึ้นแท่นภาพยนตร์ที่ทำเงินสูงที่สุดในแฟรนไชส์ – Akibatan

แต่สำหรับภาพยนตร์ฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ จะเป็นการนำความคลาสสิกดั้งเดิมมาทำให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ และคาดว่าเนื้อเรื่อง จะเน้นไปที่ ฮอนโก ทาเคชิ คนเดียว โดยใช้ชื่อว่า Shin Kamen Rider ซึ่งผู้มารับบท ฮอนโก ทาเคชิ คือ โซสึเกะ อิเกะมัตสึ นักแสดงหนุ่มวัย 31 ปี จากหนังดัง “The Last Samurai” ที่มี Tom Cruise แสดงนำ ซึ่งนักแสดงที่รับบท ฮอนโก ทาเคชิ ภาคต้นฉบับดั้งเดิมคือ ฟูจิโอกะ ฮิโรชิ ส่วนนักแสดงนำหญิงของเรื่องคือ มินามิ ฮามาเบะ จากบทบาทที่หลายคนจำได้ใน Kakegurui โคตรเซียนโรงเรียนพนัน(รับชมได้ทาง Netflix) โดยรับบทเป็น จาบามิ ยูเมะโกะ ตัวเอกของเรื่อง

มินามิ ฮามาเบะ ใน Kakegurui โคตรเซียนโรงเรียนพนัน
ส่วนผู้กำกับและเขียนบทก็ไม่ใช่ใครที่ไหนซึ่งก็คือ ฮิเดเอกิ อันโนะ เจ้าของผลงาน Evangelion และภาพยนตร์ตระกูล Shin อาทิ Shin Evangelion , Shin Godzilla , Shin Ultraman ซึ่งคงจะการันตีได้เลยว่าเนื้อหาจะต้องออกมาเข้มข้นตามสไตล์ ฮิเดเอกิ อันโนะ ที่มักจะใส่ความจริงจังในรูปแบบของ ศาสนา ความเชื่อ การเมือง แบบเข้มข้นจัดหนัก ชนิดที่อดคิดไม่ได้ว่า หรือ Shin Kamen Rider ถูกสร้างมาเพื่อแฟนคลับ วัย 50 อัพมากกว่าแฟนคลับที่เป็นเด็กๆดูกันนะ

ซึ่งในวันนี้ 30 ก.ย. 64 ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวและได้ปล่อยตัวอย่างออกมาให้ชมกันแล้ว โดยจะเป็นการคารวะต้นฉบับด้วยการนำ ScreenPlay ดั้งเดิมของปี 1971 มาใช้นั่นเองโดยจะมีความคล้ายคลึงกันมากต่างกันแค่ดีไซน์ชุดของ คาเมนไรเดอร์ และ รถมอเตอร์ไซค์ ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น

Shin Masked Rider เป็นเรื่องราวของ ฮอนโก ทาเคชิ ถูกลักพาตัวไปโดย “ช็อคเกอร์” องค์กรสุดชั่วร้าย และถูกดัดแปลงเป็นมนุษย์ดัดแปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยึดครองโลก ก่อนที่พวกองค์กรร้ายจะล้างสมองให้เขาให้เป็นอาวุธที่ทำตามคำสั่ง เขาก็ได้หนีออกมา และใช้ความสามารถที่ได้รับการดัดแปลงเข้าต่อสู้กับความชั่วร้าย และทำลายล้างองค์กรช็อกเกอร์ ในฐานะ “มาสค์ไรเดอร์”

รีวิว – ReviewShin Kamen Rider movie review (2023) | Roger Ebert

Shin Masked Rider เปิดฉากออกมาอย่างตื่นเต้นกับการตามล่าขององค์กรช็อกเกอร์ และหญิงสาวที่หนีออกมาจากองค์กร ได้รับความช่วยเหลือจากมาสค์ไรเดอร์ เป็นฉากเปิดที่หวือหวาพอสมควรเพราะการต่อสู้กับออคเมนต์ จัดเต็มไปด้วยเลือดสาดกระเด็นเต็มหน้าจอ ต่อมาเข้าสู่การสร้างปมของตัวละครในการฝากความหวังให้ มาสค์ไรเดอร์ ช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ และทำความเข้าใจกับร่างกายของตนเอง พร้อมทั้งตัวละครมีปูมหลังฝังใจในความต้องการพลังจึงเป็นสิ่งที่ยับยั้งชั่งใจเขาพอสมควร แต่เมื่อเขาตัดสินใจเขาได้เข้าช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์เต็มรูปแบบ พร้อมมีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนคู่กับ รูริโกะ

ถึงแม้เนื้อหาจะเราแบบไต่ระดับอารมณ์แต่ฉากของการต่อสู้ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้น เมื่อการต่อสู้กับออคเมนต์ของพวกเขามันดูรวดเร็วและไม่ทันให้เราได้เครื่องติดไฟลุกโชนก็จบลงไปแล้ว แต่ไม่แคล้วมีลาสต์บอสแข็งแกร่ง และเป็นจุดคลี่คลายเนื้อหาทั้งหมดที่ผ่านมา สำหรับการจะสร้างความสุขให้มวลมนุษย์ด้วยวิธีการของพวกเขา เป็นตอนที่สร้างความประทับใจไม่น้อยเลยทีเดียว

ด้านการแสดงดี มีรสชาติของคาแรคเตอร์ตัวละครให้เราได้สัมผัสหลายรสชาติ ทั้งรูริโกะ ดูเหมือนเธอจะเป็นคนแข็งกระด้าง แต่เธอก็มีความอ่อนโยน และอ่อนแอในบางครั้ง ฮอนโก ชายหนุ่มมาสค์ไรเดอร์ผู้มีความอ่อนโยน แต่มีความหวังที่จะช่วยเหลือผู้คน อิจิมอนจิ มาสค์ไรเดอร์คนที่ 2 เป็นตัวละครที่ชูอารมณ์ความสนุก และเรียกรอยยิ้มได้ดีทีเดียว เพราะมีความกวน ทะเล้น และตนเองเป็นอิสระ นอกจากคาแรคเตอร์ที่แสดงบทบาทออกมา

การสื่อสาร ทางใบหน้า น้ำเสียง ยังส่งผ่านอารมณ์ได้เป็นอย่างดี ทั้งฉากเศร้าเคล้าน้ำตามาด้วยเสียงสะอื้น ฉากชื่นมื่นความประทับใจ ด้านมุมกล้องจะบอกว่าส่วนใหญ่ใช้แทนสายตาของตัวละครก็ว่าได้ แต่มันกลับค่อนข้างทำให้มีความสั่น และวกไปวนมาอาจดูลำบากไปสักนิด บวกกับโทนสีบางช่วงอึมครึมยิ่งทำให้การแสดงไม่ชัดเท่าไร อาทิ ฉากต่อสู้ในบางครั้งแทนสายตาของผู้ที่ด้อยกว่าทำให้ภาพที่ออกมาเหมือนกลิ้งไปกลิ้งมาและบางจังหวะไม่มีมุมกว้างให้เห็นการต่อสู้นั้นอีกด้วย นอกจากนั้นการใช้มุม Close-Up มีการจัดวางสัดส่วนไม่ค่อยพอดี บางทีศีรษะตัดไประดับหนึ่ง หรือการใช้มุมกล้องในการคุยกันทั้งสองฝ่ายการตัดต่อสลับใบหน้าไปมาค่อนข้างไว มันเลยไม่ค่อยชัดเจนในภาพเท่าไรนัก

เป็นการฉลองครบ 50 ปีที่ทำออกมาได้ดี แต่ยังมีข้อที่น่าผิดหวังสำหรับเราไม่น้อยเลย การเล่าเรื่องมีระดับอารมณ์ที่น่าสนใจทั้งการเอาชนะจิตใจตนเอง ความเศร้าของการสูญเสีย ฉากเหล่านี้ดึงให้เราเข้าไปในความรู้สึกได้ค่อนข้างดี แต่การต่อสู้เพื่อมวลมนุษย์

ฉากแอ็คชันไม่ถึงกับมีความหวือหวา หรือบู๊เดือดแบบต่อเนื่องมันส์ถึงใจเท่าไรนัก มีให้หยุดพักหายใจเป็นระยะ พร้อมการปะทะของช็อกเกอร์ที่ไม่ได้รู้สึกว่าให้ความท้าทายในการต่อสู้มากเท่าที่ควร การถ่ายทำ มุมกล้องอาจจะสื่อสารผ่านสายตาของตัวละคร แต่การสั่นของกล้องและโทนสีบางจังหวะอาจทำให้ผิดหวังไปเล็กน้อย แต่ทั้งนี้เนื้อหาได้มีข้อคิดเสริมเอาไว้ ให้เราได้เข้าใจความแตกต่างของความสุข การก้าวผ่านความกลัวในจิตใจ และการเสียสละตนเองเพื่อช่วยเหลือผู้คน

thinng