disney the little mermaid

disney the little mermaid

disney the little mermaid

disney the little mermaid โดยหนังเล่าถึงเรื่องราวสุดน่ารักของ แอเรียล เงือกสาวที่ฝันอยากเป็นมนุษย์ และเธอได้ทำทุกทางเพื่อให้ได้ไปยังโลกมนุษย์ จนเธอทำได้สำเร็จและได้พบเจ้าชาย อีริก พร้อมกับเรื่องราวมากมาย ที่ทำให้ทั้งคู่ได้ตกหลุมรักกัน แต่เธอก็รู้ดีว่ากฎของโลกใต้มหาสมุทร ห้ามรักใคร่กับมนุษย์โดยเด็ดขาด

ต้องบอกว่าเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก the little mermaid เพราะเรื่องราวที่สนใจและชวนให้เพลิดเพลินนี้ ทำให้กลายเป็นหนึ่งในหนัง ที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่าภายหลังจากการเปิดตัวนางเอก เบลีย์ ค่อนข้างได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนักมาก วันนี้เราจะไปดูกันว่ากระแสของเรื่องนี้เป็นอย่างไร จะสู้เวอร์ชัน The Little Mermaid 1989 พากย์ไทย ได้ไหม

รีวิว The Little Mermaid จาก แอเรียล การ์ตูน สู่ภาพยนตร์ที่หลายคนเฝ้าจับตามอง ไปดูกันว่ากระแสจะเป็นอย่างไรบ้าง?
รีวิว The Little MermaidThe Little Mermaid: Everything we know about Disney's live-action remake

เจอกันใน รีวิวหนัง-ซีรีส์ อย่างแรกที่เราขอพูดถึง เราว่าทุกคนน่าจะทราบดี คือการนำ แฮลลี เบลีย์ (Halle Bailey) นักแสดงผิวดำมาเป็น เงือกน้อยผจญภัย จนมีการตั้งคำถามว่าดิสนีย์พยายามตามกระแส Woke มากเกินไปจนไม่พอดีหรือเปล่า?

แถมพล็อตเรื่องในเวอร์ชันภาพยนตร์ ก็ไม่ได้ต่างไปจากเวอร์ชัน แอเรียล การ์ตูน มากนัก มันยังคงวนลูปกับเรื่องราวเดิม ๆ คือความรักของ แอเรียล และ เจ้าชายอีริก จนเธอหลงกลไปแลกเสียงของเธอ เพื่อให้ได้ขามาตามหารักจาก เออร์ซูลา แม่มดหนวดปลาหมึกตัวร้าย

ที่วางแผนทำให้ แอเรียล ติดกับดักเป็นทาสรับใช้ พร้อมคิดบัญชีแค้นกับ คิงไทรทัน โดยจุมพิตรักแท้ภายใน 3 วันจากเจ้าชาย อีริก คือทางเดียวที่จะทำให้ แอเรียล เป็นมนุษย์ได้และสมหวังในเรื่องความรัก

ความรู้สึกหลังจากดู แอเรียล เต็มเรื่อง คือใครที่รอชมความแปลกใหม่ ในการเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป อาจจะรู้สึกผิดหวังอยู่สักนิด เพราะทุกอย่างแทบจะคงเดิม ไม่มีอะไรทำให้เราตื่นเต้นสักเท่าไหร่ เลยทำให้รู้สึกว่าหนังมันดูเนือย ๆ

และเมื่อพูดถึง เบลีย์ ที่มารับบทเป็น เงือกน้อยผจญภัย ก็ต้องบอกว่าเธอมีคุณสมบัติที่ดีพอ ไม่ว่าจะเป็นในด้านทักษะการแสดง การร้องเพลงในรูปแบบมิวสิคัล เธอก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้เวอร์ชันออริจินอลเลย แต่ก็ต้องบอกกันตามตรง ว่าการปรากฏตัวของเธอ มันไม่ได้ว้าวอะไรมากนัก

จากรอบสื่อที่พวกเราได้เห็นกัน คือทางดิสนีย์ได้เชิญคนดังที่เป็น LGBTQIA+ ไปเยอะมาก แต่เมื่อฉากร้องเพลงเริ่มขึ้น ทุกอย่างคือเงียบกริบไร้ซึ่งเสียงกรี๊ดและเสียงปรบมือ ก็ต้องบอกว่ามันอาจจะยังไม่ทัชใจคนดูเท่าไหร่นัก

เนื้อเรื่องหลัก ๆ ย่อ ๆ ก็คือ เงือกน้อย Ariel (Halle Bailey)

ลูกสาวคนเล็กของจ้าวสมุทร King Triton (Javier Bardem นักแสดงออสการ์) ไปตกหลุมรักมนุษย์อย่างเจ้าชาย Eric (Jonah Hauer-King) เธอจึงไปหา Ursula แม่มดทะเล (Melissa McCarthy) เอาเสียงใส ๆ ของเธอไปแลกกับขาสองข้าง โดยแม่มดมีเงื่อนไขว่า Ariel ต้องทำให้เจ้าชายหลงรักและจุมพิตเธอภายใน 3 วัน

Rob Marshall ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่า เรากำลังถูกยัดเยียดให้ยอมรับ “เงือกผิวดำ” หรือ “เงือกผิวสี” แม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขาทำให้เราเห็นภาพแห่งโลกความเป็นจริงว่า ถ้าโลกนี้มีนางเงือกจริง ๆ นางเงือกก็อาจมีสีผิวใดใดตามเขตน่านน้ำท้องมหาสมุทรที่นางเงือกนั้น ๆ ถือกำเนิด

เช่น เงือกแถบแอฟริกาก็อาจสีผิวดำ เงือกแถบอินเดียก็อาจสีผิวน้ำตาล เช่นเดียวกับมนุษย์บนภาคพื้นทวีป โดยในเรื่องนี้ Ariel อยู่แถบเขตแอฟริกา บนดินเป็นเมืองที่ปกครองโดย Queen Selina (Noma Dumezweni) ซึ่งเป็นคนผิวดำ และเจ้าชายเป็นลูกเลี้ยงผิวขาวที่ลอยมาเรือแตก (ซึ่งในสมัยนั้น ชาวตะวันตกก็ชอบล่องเรือมาล่าอาณานิคมหรือจุดประสงค์ต่าง ๆ กับแถบนี้จริง ๆ)

สำหรับเรา สิ่งที่เชื่อได้ยากมากกว่าเรื่องการมีอยู่ของนางเงือกผิวสีหรือนางเอกผิวดำ คือการที่ใครสักคนจะเจอรักแท้หรือตกหลุมรักใครกันใน 3 วัน 7 วัน แต่หนังเรื่องนี้ก็ทำให้เราเชื่อได้ว่ามันเป็นไปได้ ทำให้เราเข้าใจว่า รักแท้มันหน้าตาแบบไหน… เพราะในเรื่อง Ariel ตกหลุมรักเจ้าชายตั้งแต่แรกเห็นเพราะความคิด ความฝัน อุดมการณ์ และปมในใจ ที่เหมือนกับของเธอทุกประการ โดยทั้งสองเป็นเจ้าหญิง/เจ้าชาย มีภาระหน้าที่ในวันหน้ารออยู่ ถูกพ่อแม่ตีกรอบและขีดเส้นทางให้ แต่ก็ใฝ่ฝันที่จะเดินทางไปค้นหาและเรียนรู้โลกใบใหม่หรือโลกภายนอกที่แตกต่างออกไป ซึ่ง “พ่อแม่รังแกฉัน” หรือ protective parents ก็เป็นหนึ่งในธีมสำคัญของเรื่องเช่นกัน

เราได้เห็นว่า สองคนนี้เขารักในตัวตนของกันและกันจริง ๆ

โดยไม่เกี่ยวกับอีกฝ่ายจะรูปลักษณ์ภายนอกเป็นอย่างไรหรือจะสมบูรณ์ครบ 32 หรือไม่ นั่นก็หมายความด้วยว่า ต่อให้ใครจะมาโต้แย้งว่า Vanessa (Jessica Alexander) สวยเลิศกว่า Ariel เพียงใด มันก็ไม่สำคัญอยู่ดี และเอาจริง ๆ ทั้ง Ariel และ Vanessa ก็สวยคนละแบบ ตัว Vanessa เองก็รู้ว่า

แค่ความสวยอย่างเดียวมันไม่พอที่จะจับเจ้าชายได้ จึงต้องเอาเสียงของ Ariel มาช่วยและสวมรอยว่าเป็นฮีโร่ที่เคยช่วยชีวิตเจ้าชายไว้

โดย “เออร์ซูลา” ที่เป็นหนึ่งในวายร้ายตัวแม่ของจักรวาลดิสนีย์ในเวอร์ชั่นนี้ รับบทโดย เมลิสซา แม็กคาร์ธี (Melissa McCarthy) ผู้มีความแค้นต่อพ่อของแอเรียล คิงไทรทัน รับบทโดย ฮาเวียร์ บาเด็ม (Javier Bardem) โดยแม่มดหนวดปลาหมึกตั้งเงื่อนไข ให้เงือกน้อยต้องได้รับจุมพิตรักแท้ภายใน 3 วันจากเจ้าชายอีริก คือหนทางเดียวที่แอเรียล จะเป็นมนุษย์ และสมหวังในความรักดั่งที่เธอตั้งใจ

โดยรวมตัวภาพยนตร์เวอร์ชั่นรีเมคนี้ มีการเพิ่มเติมตัวละครใหม่ๆ ซึ่งอาจมองดูไม่จำเป็นนัก ในความคิดเห็นของผู้ชมบางส่วน ทั้งนี้ยังมีการตัดตัวละคร และบางประเด็นออกไปด้วยเช่นกัน แต่เราจะยังคงได้ฟังทั้งเพลงดังที่นับว่าเป็นไอคอนนิคของเงือกน้อยผจญภัย อาทิ เพลง “Under the sea” และ “Kiss the girl”

จากสองตัวละครสายฮาอย่าง “เซบาสเตียน” อำมาตย์ปูแดง และ “สกัทเทิล” นกนางนวล ที่มีการเรียบเรียงทำนองใหม่ ควบคุมการบรรเลงโดย อลัน เมนเคน (Alan Menken) ผู้ที่เคยทำดนตรีให้กับอนิเมชันต้นฉบับ และได้ ลิน มานูเอล มิแรนดา (Lin Manuel Miranda) มาแต่งเนื้อร้องให้โดยยังคงไว้ ซึ่งกลิ่นอายเดิมแบบฟังแล้วไม่ช็อตฟีล

เมื่อพูดถึงนักแสดง ที่เป็นอีกหนึ่งดราม่ามีกระแสตีกลับLittle Mermaid: Why is Halle Bailey starrer facing a backlash with over 3 million dislikes on the trailer? | PINKVILLA
เรื่องสีผิวของนักแสดงที่ผิดเพี้ยนไปจากต้นฉบับตั้งแต่เปิดตัว อย่าง ฮัลลี เบลีย์ นักร้องสาวเจ้าของเสียงไพเราะอันทรงพลังชาวอเมริกัน ผู้มารับบทเป็นตัวละครเอกอย่าง เงือกน้อยแอเรียล ซึ่งถือเป็นสุดยอดตัวละครไอคอนนิคของดิสนีย์ เข้าถึงบทด้วยทักษะการแสดง

thinng