SEO ย่อมาจาก

seo ย่อมาจาก

SEO ย่อมาจาก Search engine optimization เป็นขั้นตอนที่บากบั่นเพิ่ม Traffic ที่มีคุณภาพ ไปสู่เว็บ (ของคุณ) จาก Search Engine ต่างๆด้วยแนวทางต่างๆเพราะเหตุว่าโดยทั่วไปแล้วเว็บที่ปรากฏอยู่ใน Search Engine ในอันดับหนึ่งชอบถูกคลิกหลายครั้งกว่าเว็บที่อยู่ข้างล่าง หรืออยู่หน้าต่อไป โดยทั่วไปแล้วจุดหมายวิธีการทำ SEO

การเพิ่มคุณภาพอุปกรณ์ค้นหา

SEO เป็นวิธีการประเมินแล้วก็เปลี่ยนแปลงรายละเอียดเว็บเพื่อเพิ่มสถานะออนไลน์ของคุณบน Google, Bing แล้วก็อุปกรณ์ค้นหาอื่นๆSEO เกี่ยวพันกับเคล็ดวิธีที่นานัปการและก็มักจัดการโดยบริษัทการตลาดดิจิทัลที่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบเว็บและก็การตลาดผ่านอุปกรณ์ค้นหา

คะแนน SEO ของคุณเป็นยังไง?

พิจารณาเว็บของคุณสำหรับปัญหา SEO ฟรี! ภายหลังกรอกแบบฟอร์มนี้แล้ว คุณจะได้รับการตรวจทานเว็บพื้นฐานพร้อมข้อมูลบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ควรจะปรับแก้ ไม่มีข้อผูกพัน และก็คุณจะผิดสแปม นอกเหนือจากการพิจารณา อีเมลแนะนำตัวพวกเรา รวมทั้งอาจมีการโทรติดตามผล คุณจะผิดจัดอยู่ในรายนามใดๆก็ตามและไม่มีการเผยข้อมูลของคุณกับบุคคลภายนอกวิธีการวิเคราะห์

SEO เป็นอย่างไร? สำคัญเช่นไร? ตอบทุกปัญหาจบในที่เดียว

SEOหมายถึงวิธีการทำให้เว็บของคุณติดหน้าแรกบน Search result อาทิเช่น Google เพื่อไม่ว่าใครจะหาอะไร ก็พบเว็บของคุณที่พร้อมจะให้คำตอบในสิ่งที่คนถามบนหน้าการค้นหานั้น ยิ่งตำแหน่งที่อยู่แสดงผลลัพธ์สูงมากแค่ไหน ยิ่งเพิ่มจังหวะให้คนเข้าถึงเว็บมากมายแค่นั้น รวมทั้งบางทีอาจได้ยอดจำหน่ายในในที่สุด

ถ้าหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจแบบใหม่หรือผู้ที่กำลังพึงพอใจสำหรับเพื่อการทำธุรกิจออนไลน์ แล้วก็มีเว็บแล้ว ถามหน่อยเถิดว่าหากเสียตังค์ว่าจ้างคนสร้างเว็บไปตั้งหลายแสน แม้กระนั้นเดือนๆนึงมีคนเข้ามามองน้อยนิด แล้วผลกำไรหรือยอดจำหน่ายจะได้คุ้มค่าการลงทุนที่เสียไปเมื่อไร… พวกท่านทั้งหลายแหล่บางครั้งก็อาจจะจำเป็นต้องเคยรับรู้คำว่า “SEO” ผ่านๆหูกันมาบ้างว่า SEO ย่อมาจาก เป็นอย่างไร หรือถ้าเกิดไม่เคยรู้เลยว่า คุณยิ่งจำเป็นต้องไม่พลาดเนื้อหานี้

SEO เป็นอย่างไร?

SEO หรือ Search Engine Optimizationหมายถึงกระบวนทางการตลาดดิจิทัลที่ทำให้เว็บของคุณติดหน้าแรกสำหรับในการค้นหา (บนหน้า Google) ยิ่งเว็บอยู่สูงเท่าไร ยิ่งได้โอกาสให้คนแลเห็น ถูกคลิก แล้วก็บางทีอาจจะได้ยอดจำหน่าย&ผลกำไรในในที่สุด

ซึ่ง SEO สามารถจะก่อให้เว็บอย่างแบรนด์ ผลิตภัณฑ์ หรือธุรกิจบริการ สามารถขึ้นหน้าแรกของ Google เมื่อมีการค้นหาด้วยคำ Keyword ที่เกี่ยวโยงที่คนทำ SEO ระบุเอาไว้ โดยมิได้เป็นการซื้อโปรโมทเพื่อที่แสดงผลลัพธ์บน Google (Google Ads) โดยกระบวนการทำนั้นจำเป็นต้องอาศัยส่วนประกอบต่างๆอีกทั้งการใช้ Content แบบ Onsite, Outreach, Blog รวมทั้งการใส่ Keyword รวมทั้งแนวทางการทำ Backlink ที่นับว่าเป็นส่วนสำคัญสำหรับในการทำให้เว็บของคุณไต่ชั้นจากหน้าด้านหลังๆขึ้นมาจนกระทั่งหน้าแรกได้แบบ Organic

แนวทางการทำ SEO นี้มิได้เฉพาะในเรื่องดึงรายละเอียดออกมาจัดลำดับ แต่ว่ายังรวมทั้ง การดึงรูป แล้วก็วีดีโอ ออกมาให้คนเผชิญได้ด้วย ซึ่ง SEO จำต้องอาศัยอีกทั้งช่วงเวลาแล้วก็การทำงานโดยตลอดเพื่อสำเร็จลัพธ์ในระยะยาว

แล้วก็เนื่องด้วย SEO นั้นไม่ต้องเสียตังค์ให้ Google แม้กระทั้งบาทเดียว สิ่งที่จะต้องทำก็เลยเป็นการปรับปรุงและก็จัดระบบเว็บไปพร้อมๆกับการปรับปรุงแก้ไข Content เพื่อสร้างโครงข่ายสู่การเพิ่มคุณภาพเว็บของตนเองจนกระทั่ง Google มีความเห็นว่าเว็บไซต์นั้นๆมีสมรรถนะสำหรับเพื่อการยั่วยวนใจผู้เข้าชม แล้วก็ตอบปัญหาผู้ใช้ ก็เลยจะเบาๆเลื่อนลำดับหน้าเว็บไซต์ ให้ขึ้นมาอยู่บนหน้าแรก ยิ่งเป็นตำแหน่งแรก (ข้างบนสุด) ด้วยแล้วนับว่าเป็นตำแหน่งที่ดีเยี่ยมที่สุด ที่ทุกธุรกิจต่างฉกชิง

ก่อนที่จะไปสู่เนื้อหารายละเอียดอันอัดแน่นตอบปัญหาเกี่ยวกับ SEO ย่อมาจาก พวกเราจะขอนำความหมายของศัพท์เฉพาะต่างๆมาให้ท่านได้ทำความรู้จักเพื่อไม่ยุ่งยากต่อการทำความเข้าใจในรายละเอียดทั้งปวงถัดไป

  1. Search Engineหมายถึงเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหา อย่างเช่น Google, Yahoo, Bing
  2. Rankingหมายถึงการจัดชั้นหน้าเว็บเมื่อค้นหา
  3. Blogหมายถึงบทความที่ถูกเขียนเพื่อวัตถุประสงค์สำหรับในการให้ความรู้ความเข้าใจ ให้ความเห็น ความเพลิดเพลิน ไม่มีการซ่อนเร้นโปรโมท แล้วก็สรุปหัวข้อจบใน 1 บทความ
  4. Onsiteหมายถึงเนื้อความหรือเนื้อหาที่ปรากฎบนหน้าเว็บ ตัวอย่างเช่น ข้อมูลผลิตภัณฑ์ ข้อมูลบริการ เนื้อหาบริษัท อื่นๆอีกมากมาย
  5. SEO Outreachเป็นบทความที่ถูกส่งไปเพื่อลงในเว็บอื่นๆที่ไม่ใช่เว็บของตนเอง ซึ่งจะมีการใส่ลิงก์รวมทั้งKeywordลงไปเพื่อคุณคลิกแล้วกลับเข้ามาที่หน้าเว็บของผู้ครอบครองบทความ
  6. Optimiseเป็นการจัดการดูแลวัตถุประสงค์เพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
  7. Keywordเป็นคำที่ใช้เพื่อสำหรับการค้นหา
  8. Search Volumeเป็นปริมาณการค้นหาคำ Keyword นั้นๆว่ามีการค้นหาทั้งสิ้นจำนวนกี่ครั้ง
  9. Anchor Linkเป็นลิงก์ที่ถูกใส่ไว้ภายในคำที่เป็น Keyword ต่างๆจุดมุ่งหมายเพื่อขยายความหมาย ข้อมูล ของคำๆนั้น โดยที่ไม่ต้องแทรกเข้าไปในบทความ
  10. Contentหมายถึงคำโดยรวมที่ใช้สำหรับเรียกแทนรายละเอียด โดยนับแล้วก็ ตัวอักษร ภาพ และก็ส่วนประกอบอื่นๆดังเช่น Blog Content, Outreach Content อื่นๆอีกมากมาย ก็คือ ใจความสำคัญที่เขียน รายละเอียด รวมทั้งภาพ วิดีโอ ทุกอย่างที่ใส่เข้าไปในบทความนั้นๆ
  11. Backlinkหมายถึงลิงก์ที่ถูกใส่ไปกับคอนเทนต์ หรือถูกซ่อนเร้นอยู่ในตำแหน่งต่างๆของเว็บไซต์ด้านนอก โดยมีการวางเป้าให้ลิงก์กลับมาที่เว็บของพวกเรา (เอาไว้ใส่ไว้ภายใน Outreach คอนเทนต์)
  12. Organicหมายถึงในที่นี้เป็น ความประพฤติปฏิบัติทางด้านการตลาดที่ไม่ผ่านการซื้อประชาสัมพันธ์
  13. Organic Searchหมายถึงผลสรุปการค้นหาที่แสดงขึ้นมาบนหน้า Search result โดยที่ไม่ผ่านการชำระเงินเพื่อแสดง

มากันที่สาระสำคัญสำหรับเนื้อหานี้เป็นจะชี้แจงด้วยภาษาที่เข้าใจง่ายที่สุด ให้ท่านรู้จักว่า SEO เป็นอย่างไรอย่างถ่องแท้เพื่อที่ว่าถ้าผู้ใดกันกำลังเริ่มธุรกิจหรือคิดจะสร้างหน้าร้านค้าบนโลกอินเตอร์เน็ตจะได้นำไปประยุกต์เพื่อทำ SEO อย่างมีคุณภาพ

SEO ย่อมาจาก สำคัญต่อธุรกิจออนไลน์เช่นไร

แนวทางการทำตลาดด้วย SEO (SEO Marketing) เป็นวิธีการทำตลาดออนไลน์ ซึ่งจุดโฟกัสกับวิธีการทำ SEO ให้กับเว็บ โดยมุ่งมาดให้เว็บหรือสื่อออนไลน์ (รูปภาพ วิดีโอ) ของพวกเรา จะปรากฏเป็นลำดับต้นๆในผลของการค้นหา ยิ่งอันดับหนึ่งหน้า1 ยิ่งดี

ในขณะนี้ Search Engine อย่าง Google , Yahoo , Bing เป็นหนึ่งในเว็บที่มีหญิงรับใช้งานเยอะที่สุดในโลก และก็มีผลต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ดังข้อมูลด้านล่าง

ส่วนในประเทศไทย Google เป็นวิถีทางลำดับที่หนึ่งที่คนรับใช้ค้นหาผลิตภัณฑ์และก็บริการ จนกระทั่งมีคำที่พูดบ่อยจนติดปากว่า “คิดอะไรไม่ออก บอกกูเกิ้ล แล้วคุณจะได้สิ่งที่จำเป็น”

ด้วยเหตุนี้ทดลองจินตนาการว่า เมื่อคนค้นหาผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พวกเรา แล้วเว็บพวกเราปรากฏให้คนเห็นเป็นลำดับแรกๆมันจะเพิ่มจังหวะทางธุรกิจ หรือสร้าง Brand Awareness ได้มากมายแค่ไหน

ก็เลยไม่น่าฉงนใจที่ SEO จะเป็นแผนการสำคัญของธุรกิจออนไลน์ เพราะเหตุว่าช่วยเพิ่มปริมาณผู้เข้าชมเว็บได้อย่างยิ่งนั้นเอง

วิชาความรู้เบื้องต้นของ SEO Marketing

การจะเข้าหัวใจ SEO Marketing ให้เยอะขึ้น เจ้าของกิจการหรือนักการตลาดออนไลน์จะต้องรู้เรื่องวิชาความรู้รากฐาน 2 เรื่องดังต่อไปนี้

  • Organic Traffic vs Paid Traffic
  • ความไม่เหมือนระหว่าง SEO กับ SEM

พวกเรามาให้รายละเอียดทั้งยัง 2 เรื่องกันเลยนะครับ

Organic Traffic เป็นยังไง

Organic Trafficเป็นผู้ชมเว็บที่มาจากการค้นหาข้อมูลใน Search Engine (Google) โดยคุณลักษณะเด่นคือ เป็น Traffic ที่ผู้ครอบครองเว็บไม่ต้องเสียตังค์โปรโมทให้ Google แม้กระทั้งบาทเดียว

เมื่อคนค้นหาข้อมูลในกูเกิ้ล จะปรากฏรายนามเว็บที่เกี่ยวพันกับคำที่ค้นหาอยู่ใต้ประชาสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่า Organic Search โดยเมื่อคนคลิ๊กเข้าชมเว็บพวกนั้น Organic Traffic ก็จะเกิดขึ้น

โดยจำนวน Organic Traffic จะชมรมตรงกับชั้นผลของการค้นหา ยิ่งเว็บคุณปรากฏในลำดับแรกๆของผลของการค้นหาเยอะแค่ไหน Organic Traffic ยิ่งมากมายเพียงแค่นั้น

ส่วนข้อด้อยเป็น ถ้าหากคุณอยากเพิ่มปริมาณ Organic Traffic อย่างมีความนัยยะสำคัญ คุณจำต้องใช้เวลาทำ SEO ย่อมาจาก อย่างสม่ำเสมอ 3-4 เดือน ก็เลยจะบรรลุวัตถุประสงค์ โน่นซึ่งก็คือ ถ้าคุณอยากเพิ่มผู้เข้าชมเว็บแบบฉับพลัน การเน้นสร้าง Organic Traffic เพียงอย่างเดียว บางทีอาจไม่ตอบปัญหา

Paid Traffic เป็นยังไง

Paid Trafficเป็นผู้ชมเว็บมาจากการชำระเงินเพื่อซื้อพื้นที่โปรโมทของ Search Engine อย่าง Google ซึ่งบางทีอาจซึ่งก็คือการซื้อชั้นบนหน้าเสิร์ช ซึ่งจะอยู่สูงขึ้นยิ่งกว่าเว็บขั้นตอนแรกที่เป็น Organic Search และก็มีสัญลักษณ์ “Ad” อยู่หน้า URL เว็บ เพื่อมีความหมายว่าเป็นเว็บที่ชำระเงินให้กับ Search Engine

โดยจุดเด่นของ Paid Trafficหมายถึงเพิ่มปริมาณผู้เข้าชผมเว็บของพวกเราได้อย่างเร็ว เพราะเหตุว่าเมื่อพวกเราซื้อโปรโมท เว็บของพวกเราจะไปปรากฏในตำแหน่งที่คนจะมองเห็นได้มาก หรือ ลำดับเหนือสุดของผลของการค้นหาได้ในทันที

แม้กระนั้น ข้อบกพร่องเป็น จำนวนผู้ชมที่มากขึ้นจะมากับงบประมาณประชาสัมพันธ์ที่จำต้องมากขึ้นตาม ทั้งยังเมื่อพวกเราหยุดการโฆษณา เว็บพวกเราก็จะหายไปจากชั้นหรือหน้าเสิร์ชด้วย

สรุปเป็น Organic Traffic เป็นผู้เข้าชมเว็บที่ไม่ต้องจ่ายค่าใช้จ่ายสำหรับโฆษณา ส่วน Paid Traffic เป็นผู้ชมที่มาจากการซื้อประชาสัมพันธ์บน Search Engine นั้นเอง

Search Engine Algorithm เป็น?

ระบบการจัดชั้นการแสดงผลใน Search Result Page (หน้าแสดงผลลัพธ์การค้นหา) มีชื่อเรียกว่า “Algorithm (อัลกอริทึม)” แต่ละ Search Engine จะมีระบบระเบียบ Algorithm สำหรับในการให้แต้มเว็บที่ไม่เหมือนกันรวมทั้งจะมีการอัพเดตอยู่เป็นประจำๆเพื่อคัดเลือกกรองเว็บที่ด้อยคุณภาพและก็เพื่อผลของการค้นหานั้นตรงดังที่ผู้ใช้งานอยากเยอะที่สุด พวกเราก็เลยควรต้องสร้างเว็บและก็รายละเอียดให้มีคุณภาพตาม Algorithm เพื่อเว็บสามารถทำชั้นได้ดิบได้ดีที่สุด

Algorithm (อัลกอริทึม) ที่ใช้สำหรับในการจัดลำดับเว็บของ Google ซึ่งเป็น Search Engine หลักที่นิยมใช้ในประเทศไทยและก็ในหลายประเทศทั้งโลกนั้นมีอยู่มากยิ่งกว่า 100 สาเหตุ แต่ว่าพวกเราสามารถสรุป Algorithm ได้เป็น 2 ปัจจัยสำคัญ เป็น SEO ย่อมาจาก

1. ปัจจัยภายใน (On-page / Micro)

ปัจจัยภายในนั้นมาจากการปรับปรุงตัวองค์ประกอบเว็บรวมทั้งรายละเอียดด้านในเว็บ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดสำหรับในการทำ SEO ให้ติดอันดับ อย่างเช่น

  • Crawl Ability : องค์ประกอบของเว็บที่เอื้อต่อการเก็บข้อมูลของ Search Engine
  • Site Volume : ปริมาณหน้าข้างในเว็บ (Index)
  • Site Theme : ลิงค์เชื่อมโยงรายละเอียดด้านในเว็บ (Internal Link)
  • Text Match : การเลือกใช้คำที่เกี่ยวโยงกับ Keyword ตลอดจนประสิทธิภาพรวมทั้งจำนวนของรายละเอียดที่เกี่ยวพันกับ Keyword
  • ต้นเหตุอื่นๆที่เกี่ยวกับการใช้แรงงานของผู้ใช้ (User Experience (UX)) ดังเช่น
    • PageSpeed : ความเร็วสำหรับในการโหลดหน้าเว็บ
    • Mobile friendly : เว็บใช้งานได้ง่ายบนโทรศัพท์เคลื่อนที่รวมทั้งรองรับขนาดจอที่มีขนาดไม่เหมือนกัน (Responsive Web Design)
    • Safe Browsing : ความปลอดภัยสำหรับในการใช้งาน ซึ่งเว็บจำเป็นต้องไม่มีการฝัง Malware (มัลแวร์) หรือ Spam (สแปม)
    • HTTPS : การใช้ SSL Certificate ซึ่งช่วยปกป้องการดักข้อมูลต่างๆที่ผู้ใช้กรอกในเว็บ อย่างเช่น ข้อมูลส่วนตัว เลขบัตรเครดิต
    • Intrusive Interstitial : ไม่มีโปรโมทที่แสดงขึ้นมาจนกระทั่งบังประเด็นหลักของเว็บ ยกตัวอย่างเช่น Popup Ads (โปรโมทป๊อปอัป)

2. ปัจจัยภายนอก (Off-page / Macro)

ต้นสายปลายเหตุจากด้านนอกที่ช่วยสำหรับในการทำ SEO ย่อมาจาก นั้นเป็น Backlink หรือลิงค์เชื่อมโยงจากเว็บอื่น โดยบางทีอาจเป็นลิงค์ที่คนอื่นสร้างให้เว็บของพวกเรา ดังเช่นว่า การอ้างอิงต้นเหตุของข้อมูล หรือลิงค์ที่พวกเราสร้างด้วยตัวเราเอง อย่างเช่น การไปลงบทความในเว็บอื่น การสมัครสมาชิกเว็บในสารบาญเว็บ thinng ซึ่งปัจจัยภายนอกนี้สามารถแบ่งได้

  • Link Popularity : จำนวน Backlink ที่เชื่อมโยงมายังเว็บของพวกเรา
  • Site Theme : ประสิทธิภาพของรายละเอียดและก็ Backlink ที่เชื่อมโยงมายังเว็บของพวกเรา

กลอุบายวิธีการทำ On-page SEO

On-page SEOหมายถึงขั้นตอนการปรับปรุงแก้ไขด้านในเว็บในส่วนของรายละเอียดในหน้าเว็บไซต์แล้วก็องค์ประกอบของเว็บทั้งยังในส่วน Coding และก็การวางแบบส่วนต่างๆ

ทำ Keyword Research เพื่อกำหนดแผนการทำ SEO

  • ควรจะเลือก Keyword ที่อยากทำ SEO ให้สอดคล้องกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ บริการ หรือบทความต่างๆที่เกี่ยวโยง
  • ควรที่จะทำการเลือก Keyword ที่มี Search Volume หรือปริมาณผลของการค้นหา เพื่อมองว่ามีผู้ใช้ค้นหามากมายน้อยแค่ไหน
    ※สามารถมองจากจำนวนการค้นหารวมทั้งหาไอเดียเพิ่มเติมอีกด้วยเครื่องไม้เครื่องมือต่างๆได้แก่ Google Keyword Planner, KWFinder, Uber Suggest, Ahrefs
  • ควรจะแยกเป็นชนิดและประเภท Keyword อย่างมีระบบตามชนิดผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมทั้ง Search Intent (จุดมุ่งหมายการค้นหาของผู้ใช้งาน) เพื่อการจัดทำรายละเอียดได้ตอบปัญหา User (ผู้ใช้งาน)

แบบอย่าง:

  • Informational Keywordหมายถึงคำที่ใช้ค้นหาข้อมูล หรือค้นหาคำตอบ บางคราวบางทีอาจเป็นปัญหาก็ได้

ตัวอย่างเช่น ทัวร์ประเทศญี่ปุ่น, แนวทางไปประเทศญี่ปุ่น, ท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ตรงไหนดี

  • Navigational Keywordหมายถึงคำที่ใช้ค้นหาเพื่อนำทางไปยังหน้าเว็บรวมทั้งสถานที่ โดยผู้ค้นหามักมีชื่อที่รู้จักอยู่ในใจแล้ว

อย่างเช่น บริษัททัวร์ AAA, เช็คอินออนไลน์ การบินไทย, เคาน์เตอร์การบินไทย สุวรรณภูมิ

  • Commercial Keywordหมายถึงคำที่ใช้ค้นหาข้อมูลเพื่อการตัดสินใจหรือตรวจตราก่อนจะมีการซื้อหรือใช้บริการ

แบบอย่าง: ทัวร์ประเทศญี่ปุ่น บริษัทไหนดี, รีวิวทัวร์ประเทศญี่ปุ่น, เปรียบทัวร์ประเทศญี่ปุ่น

  • Transactional Keywordหมายถึงคำที่ใช้ค้นหาเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์หรือบริการ รวมถึงกระบวนการทำธุรกรรมอื่นๆ

แบบอย่าง: หน้าจอ

ตัวอย่าง: จองทัวร์ญี่ปุ่น, ราคาทัวร์ญี่ปุ่น

  • ควรกำหนด Keyword หลักและรองในแต่ละหมวดหมู่ เพื่อให้สามารถจัดทำเนื้อหาในแต่ละหน้าได้ครอบคลุมมากที่สุด
  • Focus Keyword คือคำหลักในการทำ SEO มักเป็น Broad Keyword ซึ่งเป็นคำสั้นๆ ความหมายกว้างๆ มี Search Volume จำนวนมากที่สุด เช่น ทัวร์ญี่ปุ่น
  • Related Keyword คือคำรองที่มีความเกี่ยวข้องกัน มักเป็น Niche keyword หรือ Longtail Keyword ซึ่งเป็นคำที่มีความเจาะจงมากขึ้น มี Search Volume รองลงมา เช่น แพคเกจทัวร์ญี่ปุ่น, ทัวร์ไปญี่ปุ่น, ทัวร์ญี่ปุ่น ราคาถูก, ราคา ทัวร์ญี่ปุ่น